คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3784/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยแต่งตั้งให้ทนายจำเลยมีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ทนายจำเลยย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจเต็มที่ขณะทำสัญญาประนีประนอมต่อหน้าศาลว่าข้อความและจำนวนเงินที่จะตกลงกับโจทก์นั้นเหมาะสมไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกัน เมื่อทนายจำเลยใช้ดุลพินิจไตร่ตรองแล้วจึงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ต่อหน้าศาลไปแล้ว แม้จะมีข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นอย่างอื่นก่อนหน้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตามจำเลยจะอ้างว่าเป็นการทำไปโดยโจทก์ฉ้อฉลหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับซื้อฝากบ้านและที่ดินพิพาทจากจำเลยจนได้กรรมสิทธิ์ต่อมาจำเลยทำสัญญาจะซื้อคืนที่ดินไม่รวมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินแล้วจำเลยผิดสัญญาโจทก์บอกเลิกสัญญาและบอกกล่าวให้จำเลยออกจากบ้านและที่ดินพิพาท จำเลยให้คำมั่นว่าจะออกแล้วเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากบ้านและที่ดินพิพาท และใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่ดินพิพาทด้วยสำคัญผิดเพราะสัญญามิได้ลงข้อความว่ารวมทั้งสิ่งปลูกสร้าง สัญญาจึงตกเป็นโมฆียะ จำเลยขอให้โจทก์แก้ไขสัญญา โจทก์ไม่ยอมแก้ โจทก์ขอให้จำเลยออกไปโดยยินยอมจ่ายค่าทดแทน 40,000 บาท แต่แล้วโจทก์ไม่ยอมจ่าย หนังสือคำมั่นว่าจะออกจากที่ดินพิพาทของจำเลยทำขึ้นโดยเจตนาลวง ขอให้ยกฟ้อง

โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลโดยจำเลยและบริวารยินยอมออกจากบ้านและที่ดินพิพาท และโจทก์ยอมให้ค่าขนย้าย10,000 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยแต่งตั้งให้ทนายจำเลยมีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ทนายจำเลยย่อมมีอำนาจใช้ดุลพินิจเต็มที่ขณะทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลว่าข้อความและจำนวนเงินที่จะตกลงกับโจทก์นั้นเหมาะสมไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกัน โดยทนายจำเลยมีอำนาจต่อรองและจะไม่ยอมตกลงก็ได้ถ้าเห็นว่าจำเลยเสียเปรียบ แม้จะฟังได้ดังจำเลยฎีกาว่ามีข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นอย่างอื่นก่อนหน้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความทนายจำเลยก็มีโอกาสใช้ดุลพินิจไตร่ตรองข้อความและจำนวนเงินว่าสมควรเพียงใด เมื่อทนายจำเลยใช้ดุลพินิจไตร่ตรองแล้วจึงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ต่อหน้าศาล ดังนั้น จำเลยจะอ้างว่าเป็นการทำไปโดยโจทก์ฉ้อฉลหาได้ไม่

พิพากษายืน

Share