คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3781/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อตามคำร้องไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ทราบการฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อใด ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องเกินกำหนด8 วัน นับแต่ทราบพฤติการณ์แห่งการฝ่าฝืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองหรือไม่ศาลชั้นต้นชอบที่จะทำการไต่สวนเสียก่อน ที่ศาลชั้นต้นด่วนยกคำร้องของผู้ร้องโดยไม่ได้ทำการไต่สวนเสียก่อนจึงเป็นการไม่ชอบ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมโดยจำเลยยอมรื้อถอนบ้านตามฟ้องพร้อมสิ่งปลูกสร้างและบริวารออกจากที่ดินของโจทก์ต่อมาจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจึงออกหมายบังคับคดีแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีจัดการให้โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ปิดประกาศให้จำเลยและบริวารทราบว่าจะทำการรื้อถอน
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า บ้านเลขที่ 153/3, 153/12, และ 153/15ซึ่งปลูกสร้างบนที่ดินของโจทก์เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ผู้ร้องเป็นผู้เช่าที่ดินจากโจทก์จึงมิใช่บริวารจำเลย และที่ดินตามฟ้องถูกเวนคืนให้กระทรวงมหาดไทย จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย คำพิพากษาตามยอมจึงเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ขอให้ศาลชั้นต้นสั่งยกเลิกการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องเกินกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้ร้องอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติการบังคับคดีโดยผู้ร้องมิได้ยื่นคำร้องภายใน 8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง นั้นศาลฎีกาเห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องไม่ปรากฏว่าผู้ร้องทราบเหตุการฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อใด ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องเกินกำหนด 8 วัน นับแต่ทราบพฤติการณ์แห่งการฝ่าฝืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง หรือไม่ซึ่งศาลชั้นต้นชอบที่จะทำการไต่สวนเสียก่อน ที่ศาลชั้นต้นด่วนยกคำร้องของผู้ร้องโดยมิได้ทำการไต่สวนเสียก่อนนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และคำสั่งของศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของผู้ร้องแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

Share