แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นหนี้โจทก์โดยทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้ ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความมีข้อตกลงให้ฝ่ายโจทก์และจำเลยต้องปฏิบัติทั้งหมด 10 ข้อ ในส่วนที่เกี่ยวกับการถอนฟ้องเป็นเรื่องที่ตกลงให้โจทก์ถอนฟ้องคดีแพ่ง 1 คดี จำเลยกับพวกถอนฟ้องคดีอาญา 1 คดี คดีแพ่ง 2 คดี และตกลงประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งอีก 1 คดี คดีแพ่งทั้ง 4 คดีดังกล่าวไม่ใช่คดีอาญาแผ่นดินจึงไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่ตกเป็นโมฆะ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 แม้จะฟังว่าข้อตกลงในส่วนที่ให้ฝ่ายจำเลยถอนฟ้องคดีอาญาข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมที่ระบุในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นคดีอาญาแผ่นดินซึ่งอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตกเป็นโมฆะก็ตาม ก็เป็นส่วนที่แยกออกจากส่วนที่สมบูรณ์ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 173 ซึ่งไม่เกี่ยวกับส่วนที่โจทก์จะได้รับชำระหนี้จำนวน 700,000 บาท จากจำเลยและจดทะเบียนโอนที่ดินให้จำเลยตามที่ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงสัญญาประนีประนอมยอมความ หนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ซึ่งเป็นหนี้เดิมจึงระงับไปแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน ๖๘๗,๓๙๗.๒๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความเป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ข้อตกลงตามบันทึกข้อตกลงประนีประนอมยอมความที่ให้จำเลยถอนฟ้องโจทก์ในคดีอาญาข้อหาปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอมขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนเป็นโมฆะ และไม่ทำให้หนี้เดิมตามหนังสือรับสภาพหนี้ระงับไปหรือไม่ เห็นว่า ตามบันทึกข้อตกลงประนีประนอมยอมความมีข้อตกลงที่ฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยต้องปฏิบัติรวมทั้งหมด ๑๐ ข้อ ในส่วนที่เกี่ยวกับการถอนฟ้องเป็นเรื่องที่ตกลงให้โจทก์ถอนฟ้องคดีแพ่ง ๑ คดี จำเลยกับพวกถอนฟ้องคดีอาญา ๑ คดี คดีแพ่ง ๒ คดี และตกลงประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งอีก ๑ คดี คดีแพ่งทั้ง ๔ คดีดังกล่าวไม่ใช่คดีอาญาแผ่นดิน ข้อตกลงในส่วนดังกล่าวจึงไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่ตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๐ แม้จะฟังว่าข้อตกลงในส่วนที่ให้ฝ่ายจำเลยถอนฟ้องคดีอาญาในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ ใช้เอกสารสิทธิปลอมที่ระบุในบันทึกข้อตกลงประนีประนอมยอมความข้อ ๑ เป็นคดีอาญาแผ่นดินซึ่งอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตกเป็นโมฆะก็ตาม ก็เป็นส่วนที่แยกออกจากส่วนที่สมบูรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๓ ซึ่งไม่เกี่ยวกับส่วนที่โจทก์จะได้รับชำระหนี้จำนวน ๗๐๐,๐๐๐ บาท จากจำเลยและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ ๒๕๙๗ ให้จำเลยตามที่ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงประนีประนอมยอมความข้อ ๔ และข้อ ๕ หนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ซึ่งเป็นหนี้เดิม จึงระงับไปแล้วดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ได้วินิจฉัยไว้โดยละเอียดแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา ๑๐,๐๐๐ บาท แทนจำเลย.