คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินตกอยู่ในภารจำยอมเพียงให้เป็นทางคนเดินผ่านที่ดินนั้นไปออกทางสาธารณะเท่านั้น. การปักเสาไฟฟ้า วางสายไฟฟ้า วางท่อประปาบนทางภารจำยอมนั้นย่อมเป็นการทำการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์. ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์เจ้าของสามยทรัพย์ไม่มีสิทธิที่จะทำได้.
แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 บัญญัติว่าเจ้าของที่ดินต้องยอมให้ผู้อื่นวางท่อน้ำ ท่อระบายสายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นที่คล้ายกันผ่านที่ดินของตนเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินติดต่อก็ตาม. แต่มาตรานี้ได้บัญญัติไว้ด้วยว่า. เจ้าของที่ดินต้องยอมต่อเมื่อได้รับค่าทดแทนตามสมควร และเป็นหน้าที่ของผู้ที่จะวางต้องบอกกล่าวเสนอจำนวนค่าทดแทนให้เจ้าของที่ดินทราบก่อน. หาใช่เป็นหน้าที่ของเจ้าของที่ดินเป็นผู้เสนอไม่. เมื่อผู้ที่จะวางไม่ได้เสนอค่าทดแทน. เจ้าของที่ดินมีสิทธิคัดค้านได้. เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตและชอบที่จะทำได้ตามกฎหมาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินจำเลยที่กั้นอยู่ด้านหนึ่งเป็นภารจำยอมโจทก์จะวางท่อประปาและสายไฟฟ้าผ่านที่ดินจำเลย จำเลยขัดขวาง เป็นเหตุให้การไฟฟ้าเลิกวางสายและริบเงิน ขอให้บังคับมิให้จำเลยขัดขวางและชำระเงินที่ถูกริบ จำเลยให้การว่า การที่โจทก์นำเสาไฟฟ้าไปปักหรือวางท่อประปาผ่านที่ดินเป็นการเพิ่มภาระแก่ที่ดินจำเลย แม้โจทก์จะมีสิทธิในภารจำยอมก็ไม่มีสิทธิจะกระทำได้ จะทำได้ต่อเมื่อขออนุญาตและเสียค่าทดแทนให้จำเลย คู่ความรับกันว่า ร้อยเอกเทียบเคยฟ้องจำเลย ศาลพิพากษาให้จำเลยเปิดทางภารจำยอม คดีถึงที่สุด โจทก์รับว่าเป็นเพียงผู้เช่าจากร้อยเอกเทียบ ไม่ได้เสนอค่าทดแทนให้จำเลย เพียงแต่แจ้งให้จำเลยทราบตามเอกสารท้ายฟ้อง จำเลยรับว่า ได้รับหนังสือตามเอกสารท้ายฟ้องเมื่อโจทก์ปักเสาและวางสายในทางภารจำยอม จำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่ารูปคดีไม่จำเป็นต้องสืบพยาน จึงให้งดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์เป็นเพียงผู้เช่าที่ดิน ไม่มีสิทธิทำการอย่างใดให้ภาระเพิ่มขึ้นแก่ที่ดินของจำเลย โจทก์ไม่ได้เสนอค่าทดแทนแก่จำเลย จึงไม่มีสิทธิปักเสา วางสายไฟฟ้า วางท่อประปาผ่านที่ดินจำเลย และไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ดินของจำเลยตกอยู่ใต้ภารจำยอมเพียงให้เป็นทางคนเดินผ่านที่ดินของจำเลยไปออกทางสาธารณะเท่านั้น การที่จะปักเสาวางสายไฟฟ้า และวางท่อประปาบนทางภารจำยอมนั้น ย่อมเห็นได้ชัดว่า เป็นการทำการเปลี่ยนแปลงในภารยทรัพย์ ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ โจทก์เป็นผู้เช่าสามยทรัพย์ ไม่มีสิทธิทำได้เพราะแม้เจ้าของสามยทรัพย์ก็ไม่มีสิทธิจะทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1388 และ 1889 แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 จะบัญญัติว่าเจ้าของที่ดินต้องยอมให้ผู้อื่นวางท่อน้ำ สายไฟฟ้าหรือสิ่งอื่นผ่านที่ดินของตนเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินติดต่อก็ตาม แต่ความในมาตรานี้ได้บัญญัติไว้ด้วยว่า เจ้าของที่ดินจะต้องยอมก็ต่อเมื่อได้รับค่าทดแทนตามสมควรแล้ว เมื่อโจทก์ไม่ได้เสนอค่าทดแทนให้จำเลย เพียงมีหนังสือแจ้งจำเลยขอความร่วมมือจากจำเลยให้ยอมสละที่ดินให้โจทก์วางสายไฟฟ้าท่อประปาเท่านั้น การที่จำเลยคัดค้านจึงเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต และชอบที่จะทำได้ตามกฎหมาย เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่ต้องบอกกล่าวเสนอจำนวนค่าทดแทนให้จำเลยทราบก่อน หาใช่เป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะเสนอต่อโจทก์ไม่ พิพากษายืน.

Share