แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีภาษีอากรคำขอให้พิจารณาใหม่นั้น คู่ความจะต้องกล่าวถึงเหตุที่ขาดนัดประการหนึ่ง และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลอีกประการหนึ่ง โดยละเอียดและชัดแจ้งทั้ง 2 ประการ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคท้าย ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 17 คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวแต่เหตุที่จำเลยขาดนัดแต่เพียงประการเดียว การที่จำเลยกล่าวมาในคำขอแต่เพียงว่าหากจำเลยได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง จำเลยจะต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดีและมาศาลตามกำหนดนัด เพราะจำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้อย่างแน่นอน ข้อความในคำขอดังกล่าวไม่ได้กล่าวแสดงเหตุโดยละเอียดและชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ชอบ ที่ศาลภาษีอากรมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยชอบแล้ว
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินพร้อมเงินเพิ่มเป็นเงิน 156,306.15 บาท แก่โจทก์
ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ให้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวและพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่อ้างว่า จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง เนื่องจากการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องกระทำโดยวิธีปิดหมายจำเลยปิดดำเนินกิจการแล้วประกอบกับกรรมการจำเลยมิได้พักอาศัยอยู่ที่บริษัทจำเลยมิได้จงใจขาดนัดหากจำเลยทราบว่าถูกฟ้องจำเลยจะต้องให้การต่อสู้คดี จำเลยมีทางที่จะชนะคดีโจทก์ได้ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่
ศาลภาษีอากรกลางเห็นว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยมิได้คัดค้านคำพิพากษาของศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 17 จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์จำเลยว่า ที่ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งยกคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยชอบหรือไม่โดยจำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยไม่ทราบว่าถูกฟ้องการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นไม่ชอบ การยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ไม่อยู่ในบังคับเรื่องระยะเวลาและเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 เห็นว่าคำขอให้พิจารณาใหม่นั้น คู่ความจะต้องกล่าวถึงเหตุที่ขาดนัดประการหนึ่ง และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลอีกประการหนึ่งโดยละเอียดและชัดแจ้งทั้ง 2 ประการ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคท้าย ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรพ.ศ. 2528 มาตรา 17 เมื่อปรากฏว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวแต่เหตุที่จำเลยขาดนัดแต่เพียงประการเดียว การที่จำเลยกล่าวมาในคำขอแต่เพียงว่า หากจำเลยได้รับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้อง จำเลยจะต้องยื่นคำให้การต่อสู้คดีและมาศาลตามกำหนดนัด เพราะจำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้อย่างแน่นอนข้อความในคำขอดังกล่าวไม่ได้กล่าวแสดงเหตุโดยละเอียดและชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคท้าย ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 17 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6911/2539 ที่จำเลยอ้างมานั้น ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้
พิพากษายืน