แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายเข้าไปท้าทายและทำร้ายจำเลยถึงในบ้านจำเลยจำเลยจึงต่อสู้ป้องกันตนและบิดาให้พ้นภยันตราย ซึ่งผู้เสียหายเป็นผู้ก่อขึ้นโดยผิด ก.ม.โดยใช้มีดโต้ต่อสู้กับตะบองโตเท่าแขนยาววาเศษ การกระทำของจำเลยไม่เกินกว่าเหตุ
แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาขึ้นมาเมื่อปรากฎว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด อันเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยได้
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้อาวุธฟันนายแจ่ม นายพยุง ขอให้ลงโทษ
นายเพี้ยนจำเลยให้การภาคเสธว่าป้องกันตัวนายทีจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔,๓๒๘,๓๒๙, รวมกะทงลงโทษจำคุกคนละหนึ่งปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า นายเพี้ยนจำเลยผู้เดียวผิด ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔,๓๒๔,รวมกะทงลงโทษจำคุกหนึ่งปี ส่วนนายทีจำเลยให้ยกข้อหาปล่อยตัวไป
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายทีจำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยคนใดได้บุกรุกเข้าไปทำร้ายนายแจ่ม นายพยุงถึงในบ้านนายแจ่ม นายทีจำเลยไม่ได้ทำร้ายนายแจ่ม นายพยุงด้วย ทั้งการที่นายเพี้ยนจำเลยทำร้ายนายแจ่มบาดเจ็บเป็นเพราะนายแจ่มเข้าไปท้าทายและทำร้ายจำเลยถึงในบ้านจำเลย นายเพี้ยนจำเลยจึงต่อสู้ เพื่อป้องกันตนและบิดาของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งนายแจ่มได้ก่อให้เกิดขึ้นโดยผิดกฎหมาย การที่นายเพี้ยนจำเลยใช้มีดโต้ต่อสู้กับตะบองโตเท่าแขนยาววาเศษนั้น ไม่เกินว่าสมควรแก่เหตุ ต้องตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๕๐ คดีเฉพาะตัวนายเพี้ยนจำเลยนั้นแม้มิได้ฎีกาขึ้นมา แต่เมื่อปรากฎว่ากระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด อันเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องปล่อยจำเลยเสียได้ จึงพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลยทั้งสองคนไป