คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3766/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นกรรมการอำนวยการบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัดโจทก์กับ บริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ร่วมกันซื้อที่ดินจากบริษัทสหกรุงเทพพัฒนา จำกัด จำนวน 43 ไร่เป็นของโจทก์ 14 ไร่ ที่เหลือเป็นของบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด โจทก์ได้จ่ายเงินชำระค่าที่ดินทั้งหมด 29,000,000 บาท โดยจ่ายทดรองให้บริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ไปก่อนเป็นเงิน 20,185,000 บาท ต่อมาบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ได้คืนเงินดังกล่าวให้โจทก์โดยจ่ายเงิน 3 งวด โจทก์ลงชื่อรับเงินไว้ในใบสั่งจ่ายเงินดังกล่าวรวม 3 ฉบับ เอกสารทั้ง 3ฉบับดังกล่าวจึงเป็นบันทึกที่เป็นหลักฐานว่าโจทก์ได้รับ เงินจึงเป็นใบรับตามประมวลรัษฎากร มาตรา 103(ก) และการที่โจทก์รับเงินดังกล่าวเป็นการรับเงินมาเป็นส่วนตัวมิได้รับมาในฐานะเป็นกรรมการอำนวยการ บริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ใบรับดังกล่าวจึงไม่มีลักษณะเป็นใบรับที่ลูกจ้างและนายจ้างออกให้ซึ่งกันและกันหรือของคณะบุคคลซึ่งกระทำกิจการร่วมกันออกให้ซึ่งกันและกันตามหน้าที่เพื่อดำเนินกิจการของคณะบุคคลนั้น จึงไม่เข้าข้อยกเว้นไม่ต้องเสียอากรตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ 28 ณใบรับในลักษณะเช่นนี้จึงต้องปิดอากรตามกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ในฐานะส่วนตัวและในฐานะกรรมการผู้อำนวยการบริษัทยูไนโกคอนสตัคชั่น จำกัด ได้ตกลงร่วมกันซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 4904 เนื้อที่ 43 ไร่เศษ เป็นส่วนของโจทก์ 14 ไร่เศษ ที่เหลือเป็นส่วนของบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด โดยซื้อจากบริษัทสหกรุงเทพพัฒนา จำกัด ในราคา 29,000,000 บาท ในการชำระเงินโจทก์ได้ทดรองออกเงินส่วนตัวให้แก่บริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นเงิน 20,185,000 บาทไปก่อนต่อมาบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ได้คืนเงินที่ยืมไปจากโจทก์โดยคืนให้3 คราว เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 20,185,000 บาท โจทก์ได้ลงชื่อรับเงินคืนให้แก่บริษัทยูไนโกคอนตรัคชั่น จำกัด เป็นหลักฐาน ต่อมาพนักงานเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ของจำเลยแจ้งให้โจทก์นำเงินอากร 100,925 บาท เงินเพิ่มอากร605,550 บาท ไปชำระโจทก์เห็นว่าคำสั่งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์พิจารณาแล้วมีคำสั่งว่า การเรียกเก็บเงินอากรและเงินเพิ่มของพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นการชอบแล้ว การรับเงินของโจทก์เข้าลักษณะเป็นใบรับที่ลูกจ้างและนายจ้างออกให้ซึ่งกันและกัน หรือที่ลูกจ้างออกให้ระหว่างกันและกันสำหรับเงินที่รับจ่ายกันในกิจการของนายจ้างตามหน้าที่และเข้าลักษณะเป็นใบรับที่บุคคลในคณะบุคคลซึ่งกระทำกิจการร่วมกันออกให้ซึ่งกันและกันตามหน้าที่เพื่อดำเนินกิจการของคณะบุคคลนั้นได้รับยกเว้นไม่ต้องปิดแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร ฉะนั้น ที่พนักงานอากรแสตมป์สั่งให้โจทก์เสียค่าอากรและเงินเพิ่มและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวเสีย

จำเลยทั้ง 4 ให้การว่า พนักงานเจ้าหน้าที่กองตรวจภาษีของจำเลยได้ตรวจสอบพบว่าใบสำคัญสั่งจ่ายเงินของบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ที่ได้จ่ายเงินชำระหนี้ให้โจทก์ในฐานะกรรมการอำนวยการบริษัทในการออกตราสารนี้ โจทก์มิได้ปิดอากรแสตมป์ใบสั่งจ่ายเงินทั้ง 3 ฉบับ เป็นบันทึกแสดงว่าโจทก์ได้รับเงินทดรองคืนจากบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด บันทึกดังกล่าวไม่ใช่ใบรับตามมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรแต่เข้าลักษณะใบรับตามมาตรา 103(ก) และตามลักษณะตราสาร 28ซึ่งโจทก์ต้องปิดแสตมป์บริบูรณ เพราะไม่ใช่ใบรับที่ลูกจ้างและนายจ้างออกให้ซึ่งกันและกันที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียอากร โจทก์จึงต้องปิดอากรและเสียเงินเพิ่มอากรอีกด้วย การที่โจทก์โดยส่วนตัวเข้าร่วมกับบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ซื้อที่ดินมาแบ่งกันก็ไม่เข้าลักษณะอันถือได้ว่าเป็นคณะบุคคลที่กระทำกิจการร่วมกัน ใบสั่งจ่ายดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายได้รับการยกเว้นอากรแสตมป์ตามบัญชีอัตราอากรหมวด 6 ข้อ 28 แห่งประมวลรัษฎากร คำสั่งของเจ้าหน้าที่และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบแล้วขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์เป็นกรรมการอำนวยการบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด โจทก์กับบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัดได้ร่วมกันซื้อที่ดินจากบริษัทสหกรุงเทพพัฒนา จำกัด จำนวน 43 ไร่ เป็นของโจทก์ 14 ไร่ ที่เหลือเป็นของบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัดโจทก์ได้จ่ายเงินค่าที่ดินทั้งหมด 29,000,000 บาท โดยจ่ายทดรองให้บริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ไปก่อนเป็นเงิน 20,185,000 บาทต่อมาบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ได้คืนเงินดังกล่าวให้โจทก์ โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด โจทก์ได้ลงชื่อรับเงินไว้ในใบสั่งจ่ายเงินดังกล่าวรวม 3 ฉบับ ศาลฎีกาเห็นว่าเอกสาร 3 ฉบับดังกล่าวเป็นบันทึกที่เป็นหลักฐานว่าโจทก์ได้รับเงินจึงเป็นใบรับตามประมวลรัษฎากรมาตรา 103(ก)และการที่โจทก์รับเงินดังกล่าวเป็นการรับเงินมาเป็นส่วนตัวมิได้รับมาในฐานะเป็นกรรมการอำนวยการบริษัทยูไนโกคอนสตรัคชั่น จำกัด ใบรับสามฉบับดังกล่าวจึงไม่มีลักษณะเป็นใบรับที่ลูกจ้างและนายจ้างออกให้ซึ่งกันและกัน หรือของคณะบุคคลซึ่งกระทำกิจการร่วมกันออกให้ซึ่งกันและกันตามหน้าที่เพื่อดำเนินกิจการของคณะบุคคลนั้น จึงไม่เข้าข้อยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีอากรตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ 28 ณ ใบรับในลักษณะเช่นนี้ จึงต้องปิดอากรตามกฎหมาย

พิพากษายืน

Share