คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในฐานละเมิดโดยการบุกรุกเข้าไปปลูกโรงเรือนอยู่ในที่ดินของโจทก์ อันเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับเสียหายจึงขอให้ขับไล่และชดใช้ค่าเสียหายในฐานละเมิดเช่นนี้ เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ละเมิดสิทธิของโจทก์โดยบุกรุกเข้ามาปลูกโรงเรือนขึ้นในที่ดินของโจทก์บริเวณ ที่ถูกเพลิงไหม้โดยจำเลยไม่มีอำนาจ ขอให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขับไล่จำเลยกับบริวาร และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดด้วย
จำเลยต่อสู้ว่า เช่าที่ดินจากเจ้าของเดินปลูกเรือนอยู่อาศัยได้รับความคุ้นครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯ เมื่อเพลิงไหม้ เรือจำเลยแล้ว จำเลยต่างปลูกเพิงอยู่ อาศัยในที่เช่าเดิม ไม่ได้บุกรุกหรือละเมิด ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยเช่าที่ดินปลูกบ้านอยู่อาศัย แม้บ้านจำเลยจะถูกไฟไหม้หมดจำเลยก็ยังมีสิทธิที่จะปลูกบ้านอยู่ในที่เช่ารายนี้ต่อไป และได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นและเห็นว่าโจทก์ไม่ได้ฟ้องอ้างว่าได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาให้อาศัยหรือใช้เช่าแล้ว จำเลยยังละเมิดขัดขืนอยู่ต่อไป หากแต่ฟ้องอ้างจำเลยบุกรุกเข้ามาอันเป็นการละเมิด คดีไม่จำเป็นจะต้องวินิจฉันกรณีที่โรงเรือนถูกเพลิงไหม้ไปหมดแล้ว จำเลยจะยังได้รับความคุ้มครองการเช่าต่อไปอีกหรือไม่ พิพากษายืนในผลที่ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยในฐานละเมิดโดยการบุกรุกเข้าไปปลูกโรงเรือนอยู่ในที่ดินของโจทก์อันเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงขอให้ขับไล่ และชดใช้ค่าเสียหายในฐานละเมิด เช่นนี้ เป็นคดีมีทุนทรัพย์และจำนวนทุนทรัพย์ตามที่ปรากฏในฟ้องของโจทก์แต่ละสำนวนไม่ถึง ๘๐๐ บาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลขั้นต้นแล้ว โจทก์จะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๔๘
ตามฎีกาข้อ ๔ ที่ว่า แม้จะตีความอย่างศาลอุทธรณ์ว่าเป็นเรืองเช่าเพื่อปลูกโรงเรือนเป็นที่อยู่อาศัยก็ดี แต่เมื่อโรงเรือนนั้นสุญหายเสื่อมสลายไปแล้ว สัญญาเช่าย่อมระงับไปด้วยนั้น โจทก์ไม่เคยเสนอปัญหาข้อนี้ให้เป็นประเด็นไว้ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่ใช่ประเด็นในคดีนี้ โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อนี้ไม่ได้มาตรา ๒๔๙
พิพากษาให้ยกฎีกาของโจทก์

Share