แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทีแรกผู้เสียหายเอาแขนท้าวประตูรถจำเลย เห็นจำเลยเอื้อมมือหยิบวัตถุสีดำเข้าใจว่าปืน จึงเอี้ยวตัวหลบ พอดีจำเลยยิงถูกใต้ศอกซ้ายทะลุ การที่จำเลยยิงถูกผู้เสียหายขณะเอี้ยวตัวหลบ เห็นได้ว่าหมายยิงลำตัวซึ่งอยู่ในอาการเคลื่อนไหวไม่ใช่หมายยิงแขนโดยเฉพาะ ปืนเป็นอาวุธร้ายแรง การยิงสาดตรงไปที่ตัว ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจถึงตาย เป็นกรณีเจตนาฆ่า เมื่อกระสุนปืนพลาดที่หมายไปถูกศอก จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้ปืนยิงนายวิรัชโดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญ นายวิรัชจึงไม่ตายสมเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษและขอให้นับโทษจากคดีแดงที่ ๒๑๑๔/๒๕๐๑ ของศาลอาญา
จำเลยรับในข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และเป็นคน ๆ เดียวกับจำเลยคดีแดงที่ ๒๑๔๔/๒๕๐๑ ส่วนข้อหาฐานยิงนายวิรัช จำเลยว่ายิงโดยไม่มีเจตนาฆ่า เหตุที่ยิงเพราะนายวิรัชใช้มีจะแทง เป็นการยิงเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยยืนห่างผู้เสียหายไม่เกิน ๑ ก้าว ขณะเกิดเหตุนายวิรัชเอามือซ้ายท้าวประตูรถ ข้อศอกซ้ายอาจห่างจากทรวงอก ถ้าจำเลยเจตนาฆ่า ย่อมสามารถเลือกยิงที่สำคัญกว่านี้ ได้ไม่ผิดพลาด จำเลยยิงนัดเดียว ไม่ยิงซ้ำ ทั้งที่กระสุนปืนยังเหลืออยู่อีก ๒ นัด เชื่อว่าจำเลยเพียงแต่เจตนาทำร้าย ไม่ใช่เจตนาฆ่า ส่วนข้อต่อสู้ว่า ป้องกันตัว ไม่น่าเชื่อ พิพากษาว่า จำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๕, ๓๗๑ พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘, ๗๒ ให้ลงโทษตามกระทงหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ ให้จำคุกจำเลย ๘ เดือน นับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาแดงที่ ๒๑๔๔/๒๕๐๑
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคน
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การใช้อาวุธปืนยิงในระยะใกล้ในระดับเดียวกับแถวหน้าอก ต้องฟังว่ามีเจตนาฆ่า เพราะปืนเป็นอาวุธร้ายแรง การที่ไม่ยิงซ้ำเติมเป็นเรื่องยับยั้งในตอนหลัง หาใช่แสดงว่าไม่มีเจตนาฆ่าในการยิงครั้งแรกไม่ เรื่องนี้นายวิรัชเป็นผู้ก่อเรื่องและโกรธจำเลยถึงกับหยุดรถตัดหน้าไปท้าให้ลงจากรถ นายวิรัชได้ชกต่อยและตามไปจะชกต่อจำเลยอีก การที่จำเลยยิงนายวิรัชในขณะนั้น ถือว่ากระทำไปโดยบันดาลโทสะ ศาลลงโทษให้น้อยลงได้ ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาตจำเลยได้รับยกเว้น โทษตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ พ.ศ. ๒๕๐๑ (ฉบับที่ ๑) จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๗๒ ให้จำคุก ๓ ปี คำรับของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ เหลือโทษจำคุก ๒ ปีและให้นับโทษต่อจากคดีแดงที่ ๒๑๔๔/๒๕๐๑
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า ที่แรกนายวิรัชเอาแขนท้าวประตูรถ เห็นจำเลยเอื้อมมือหยิบวัตถุสีดำเข้าใจว่าปืน จึงเอี้ยวตัวหลบ พอดีจำเลย พอดีจำเลยยิงถูกใต้ศอกซ้ายทะลุ การที่จำเลยยิงนายวิรัชขณะเอี้ยวตัวหลบ เห็นได้ว่า หมายยิงลำตัว ซึ่งอยู่ในอาการเคลื่อนไหว ไม่ใช่หมายยิงแขนโดยเฉพาะ ปืนเป็นอาวุธร้ายแรง การยิงสาดตรงไปที่ตัวย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจถึงตาย เป็นกรณีเจตนาฆ่า เมื่อกระสุนปืนพลาดที่หมายไป ถูกศอก จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน ดังคำวินิจฉัย ของศาลอุทธรณ์
พิพากษายืน