คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3752/2533

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ในชั้นบังคับคดีจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแต่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของจำเลยที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดเพื่อหารายได้ชำระหนี้โจทก์แทนการสั่งขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 307 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นพร้อมกับยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวโดยขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยไว้ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวในกรณีเช่นนี้มีผลเท่ากับศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยต่อไปได้ ซึ่งถ้าหากเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยเสร็จแล้วหากศาลอุทธรณ์พิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยแล้วมีความเห็นว่าควรตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการทรัพย์ตามคำร้อง กรณีก็จะไม่อาจบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ จึงไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะสั่งยกคำร้องของจำเลยโดยยังไม่ได้วินิจฉัยอุทธรณ์

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอม จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแต่งตั้งจำเลยทั้งสองเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดเพื่อหารายได้ชำระหนี้โจทก์แทนการสั่งขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 307 ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 307 ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นพร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1มีคำสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับของจำเลยที่ 2 ว่า กรณีเช่นนี้เป็นการขอให้สั่งคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยไว้ในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ 2 ที่ขอคุ้มครองประโยชน์ชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 เช่นนี้ ก็มีผลเท่ากับว่าศาลอุทธรณ์ภาค 1มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดไว้ต่อไปได้ซึ่งถ้าหากเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2ได้เสร็จแล้ว หากศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 แล้วมีความเห็นว่าควรตั้งจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการทรัพย์ตามคำร้องกรณีก็ไม่อาจบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ 2 โดยที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยังไม่ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยที่ 2ไว้ในระหว่างอุทธรณ์

Share