คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3749/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์และจำเลยได้ร่วมกันหาที่ดินและบ้านพิพาทมาด้วยกันจึงมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน เมื่อโจทก์ขอแบ่ง แต่จำเลยไม่ยอมแบ่งให้โดยปราศจากเหตุผลโดยชอบ จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะฟ้องขอแบ่งได้ ตามคำฟ้องของโจทก์บรรยายความว่า โจทก์กับจำเลยได้อยู่กินฉันสามีภรรยากัน และระหว่างอยู่กินกันนั้นโจทก์และจำเลยได้ร่วมกันทำมาหาได้ซึ่งที่ดินและบ้านพิพาท ต่อมาโจทก์และจำเลยได้หย่ากัน โจทก์จึงขอแบ่งที่ดินและบ้านพิพาทกึ่งหนึ่ง แต่จำเลยไม่ยอมแบ่ง โจทก์จึงฟ้องต่อศาล เช่นนี้สาระสำคัญของฟ้องโจทก์ประสงค์โดยตรงและชัดแจ้งที่จะชอบให้ศาลแบ่งที่ดินและบ้านพิพาทให้แก่โจทก์และจำเลยฝ่ายละกึ่งหนึ่งส่วนวิธีการแบ่งนั้นแล้วแต่ศาลจะกำหนดวิธีการแบ่งให้ซึ่งศาลล่างทั้งสองก็กำหนดวิธีการแบ่งให้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยกรรมสิทธิ์รวมตามมาตรา 1364ส่วนที่โจทก์กำหนดราคาที่ดินและบ้านและขอส่วนของโจทก์กึ่งหนึ่งนั้น โจทก์เพียงแต่ประมาณราคามาเพื่อความสะดวกในการคิดคำนวณส่วนได้และการเสียค่าขึ้นศาล แสดงว่าราคาที่ดินแบ่งกันจำนวนเท่าใดยังไม่ทราบ แม้หากปรากฏในชั้นบังคับคดีว่าราคาไม่ถึงจำนวนที่ประมาณไว้ก็ไม่เป็นสาระสำคัญเพียงแต่โจทก์มีสิทธิจะได้รับกึ่งหนึ่งของราคาที่ดินและบ้านพิพาทเท่านั้น ดังนั้นการที่ศาลล่างพิพากษาให้แบ่งและกำหนดวิธีการแบ่งชอบแล้ว มิได้เป็นการพิพากษาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายระหว่างอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาทำมาหาได้ทรัพย์สินร่วมกันเป็น ที่ดิน 1 แปลง พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ภายหลังหย่าขาดจากกันได้ตกลงแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวคนละครึ่ง โดยตีราคาทรัพย์เป็นเงินจำนวน1,000,000 บาท จำเลยตกลงให้เงินโจทก์ 500,000 บาท แล้วจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว จำเลยไม่ยอมแบ่งตามข้อตกลง ขอให้บังคับจำเลยใช้เงินจำนวน500,000 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์และจำเลยเป็นสามีภรรยากันภายหลังที่จำเลยได้ซื้อทรัพย์พิพาทมาแล้ว ซึ่งเป็นสินเดิมและสินส่วนตัวของจำเลยเมื่อหย่ากันมิได้มีข้อตกลงแบ่งทรัพย์พิพาทดังกล่าว และไม่มีข้อตกลงจะให้เงินแก่โจทก์จำนวน 500,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 229234 และบ้านเลขที่ 26/143 หมู่ที่ 13 ให้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่ง โดยให้โจทก์จำเลยแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวกันเองก่อน เมื่อไม่สามารถแบ่งได้ให้ประมูลระหว่างกันเองถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ให้นำทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาด ได้เงินสุทธิเท่าใดให้แบ่งกันคนละครึ่ง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติในเบื้องต้นว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินและบ้านพิพาทเมื่อเดือนกรกฎาคม 2533 ต่อมาเดือนธันวาคม 2533 โจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกับจำเลยและต่อมาเดือนพฤศจิกายน 2534 โจทก์ได้จดทะเบียนหย่ากับจำเลย คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในข้อแรกว่า ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นทรัพย์ที่โจทก์และจำเลยหามาได้ร่วมกันหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยเปรียบเทียบชั่งน้ำหนักพยานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่าพยานโจทก์มีน้ำหนักดีกว่าพยานจำเลย ฟังได้ว่าโจทก์และจำเลยได้ร่วมกันหาที่ดินและบ้านพิพาทมาด้วยกัน จึงมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน เมื่อโจทก์ขอแบ่งแต่จำเลยไม่ยอมแบ่งให้โดยปราศจากเหตุผลโดยชอบ จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงชอบที่จะฟ้องขอแบ่งตามฟ้องได้
ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปมีว่า ศาลพิพากษานอกฟ้องหรือเกินไปกว่าที่ปรากฏตามคำขอท้ายฟ้องหรือไม่ ตามคำฟ้องของโจทก์บรรยายความว่า โจทก์กับจำเลยได้อยู่กินฉันสามีภรรยากันและระหว่างอยู่กินกันนั้น โจทก์และจำเลยได้ร่วมกันทำมาหาได้ซึ่งที่ดินและบ้านพิพาท ต่อมาโจทก์และจำเลยได้หย่ากัน โจทก์จึงขอแบ่งที่ดินและบ้านพิพาทกึ่งหนึ่ง แต่จำเลยไม่ยอมแบ่ง โจทก์จึงฟ้องต่อศาล เช่นนี้เห็นว่าสาระสำคัญของฟ้องโจทก์ประสงค์โดยตรงและชัดแจ้งที่จะขอให้ศาลแบ่งที่ดินและบ้านพิพาทให้แก่โจทก์และจำเลยฝ่ายละกึ่งหนึ่งส่วนวิธีการแบ่งนั้นแล้วแต่ศาลจะกำหนดวิธีการแบ่งให้ ซึ่งในปัญหานี้ศาลล่างทั้งสองก็กำหนดวิธีการแบ่งให้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยกรรมสิทธิ์รวม มาตรา 1364 ส่วนที่โจทก์กำหนดราคาที่ดินและบ้านและขอส่วนของโจทก์กึ่งหนึ่งนั้น เห็นว่า โจทก์เพียงแต่ประมาณราคามาเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการคิดคำนวณส่วนได้และส่วนเสียค่าขึ้นศาล แสดงว่าราคาที่แบ่งกันจำนวนเท่าใดยังไม่ทราบ แม้หากปรากฏในชั้นบังคับคดีว่าราคาไม่ถึงจำนวนที่ประมาณไว้ก็ไม่เป็นสาระสำคัญ เพียงแต่โจทก์มีสิทธิจะได้รับกึ่งหนึ่งของราคาที่ดินและบ้านพิพาทเท่านั้น ดังนั้นการที่ศาลล่างพิพากษาให้แบ่งการกำหนดวิธีการแบ่งมานั้นชอบแล้ว มิได้เป็นการพิพากษาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142แต่อย่างใด
พิพากษายืน

Share