แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยตกลงโอนสิทธิการขายสินค้าบนแผงลอยในตลาดนัดเทศบาลเมืองพระประแดงแก่โจทก์ โดยโจทก์เสียค่าตอบแทนให้จำเลยเป็นเงิน ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนไม่ใช่การเช่าช่วง สัญญาดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ ดังนั้นแม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยตกลงโอนสิทธิการขายสินค้าบนแผงลอยในตลาดนัดเทศบาลเมืองพระประแดง พร้อมทั้งสัญญาจะจัดการโอนชื่อผู้มีสิทธิขายสินค้าให้เป็นชื่อของโจทก์ โจทก์ได้เสียค่าตอบแทนให้จำเลยแล้ว จำเลยส่งมอบแผงลอยให้โจทก์แต่ยังไม่ได้จัดการโอนให้เป็นชื่อโจทก์ ต่อมาจำเลยนำสินค้าไปวางขายบนแผงลอยดังกล่าว เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยจัดการโอนสิทธิเป็นชื่อโจทก์ ให้จำเลยขนย้ายออกจากแผงลอยและใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่าไม่เคยโอนสิทธิการขายสินค้าบนแผงลอยให้โจทก์ โจทก์ขายสินค้าบนแผงลอยในฐานะตัวแทนจำเลย โจทก์อ้างอาศัยสิทธิการเช่าช่วงเป็นหลักแห่งข้อหา แต่สภาพแผงลอยเป็นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตามกฎหมายการเช่าอสังหาริมทรัพย์จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การเช่าช่วงระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงฟ้องร้องบังคับกันไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยไม่ได้ละเมิดต่อโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจัดการโอนสิทธิการขายสินค้าบนแผงลอยแก่โจทก์ ให้จำเลยออกจากแผงลอยและชำระค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยโอนสิทธิการขายสินค้าบนแผงลอยให้โจทก์ตามที่โจทก์จำเลยตกลงกัน โดยโจทก์เสียค่าตอบแทนให้จำเลยเป็นเงิน ๘๐,๐๐๐ บาทแล้ว สภาพแห่งข้อหาเป็นการบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาที่โจทก์จำเลยตกลงกันว่า จำเลยจะโอนสิทธิการขายสินค้าบนแผงลอยของจำเลยให้แก่โจทก์ เมื่อโจทก์ชำระค่าตอบแทนให้จำเลยเป็นเงิน ๘๐,๐๐๐ บาท ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนไม่ใช่การเช่าช่วง สัญญาต่างตอบแทนดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยได้ และจำเลยผิดสัญญาไม่โอนสิทธิการขายสินค้าบนแผงลอยพิพาทให้โจทก์
พิพากษายืน.