แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะเกิดเหตุจำเลยกำลังปฏิบัติงานแจกยาแก่ประชาชน ผู้ตายกล่าวคำหยาบคายก้าวร้าวต่อบุคคลที่กำลังปฏิบัติงาน เมื่อจำเลยห้ามก็ถูกผู้ตายซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเข้าชกต่อย จำเลยต่อยตอบแต่ผู้ตายก็ไม่หยุดยั้ง การข่มเหงเป็นเหตุให้จำเลยต้องใช้ปืนยิงผู้ตายเช่นนี้ กรณีถือว่าจำเลยถูกข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ปืนสั้นเป็นอาวุธยิงนายจิตร พยุงพันธ์ รวม 3 นัดถึงแก่ความตายโดยเจตนาฆ่า เจ้าพนักงานจับจำเลยและยึดได้อาวุธปืนและกระสุนปืน 3 นัดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 30 และริบของกลาง
จำเลยให้การว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายชักปืนออกจะยิงจำเลยก่อน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุกตลอดชีวิต ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยถูกข่มเหงร้ายแรงโดยเหตุไม่เป็นธรรมพิพากษาแก้โดยให้จำคุกจำเลย 8 ปี นอกนั้นคงให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าขณะเกิดเหตุจำเลยกำลังช่วยปฏิบัติงานอันเป็นประโยชน์แก่สาธารณะอยู่ และถูกผู้ตายกล่าวถ้อยคำหยาบคายก้าวร้าวก่อเหตุก่อน เมื่อจำเลยห้าม ผู้ตายก็เข้าชกต่อย ผู้ตายรูปร่างสูงใหญ่กว่าจำเลย จำเลยต่อยตอบผู้ตายก็ยังไม่หยุดยั้งข่มเหงเป็นเหตุให้จำเลยถึงกับต้องใช้ปืนยิง การกระทำของจำเลยเกิดจากถูกยั่วโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย แต่เห็นว่าศาลอุทธรณ์วางโทษจำคุก 8 ปี แรงเกินไป พิพากษาแก้ให้วางโทษจำคุกมีกำหนด 4 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามศาลอุทธรณ์