แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อตามคำฟ้องและคำให้การคงมีประเด็นโต้เถียงกันเพียงว่าสัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนหรือไม่ และโจทก์จำเลยรับข้อเท็จจริงกันว่าจำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์รวม 4 ฉบับ สัญญาแต่ละฉบับระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดสัญญาจ้างไว้ จึงถือได้ว่าสัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการจ้างที่กำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนแล้วดังนั้น การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยโดยฟังว่าสัญญาจ้างทั้ง 4 ฉบับ ทำขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์จึงเป็นการพิพากษานอกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีความผิดแต่ไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยให้ อ้างว่าเป็นการจ้างที่มีกำหนดเวลาการจ้างแน่นอน ความจริงเป็นการจ้างที่ไม่ได้มีกำหนดเวลาการจ้างไว้แน่นอน ขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยจ้างโจทก์โดยมีสัญญาจ้างมีกำหนดเวลาการจ้างแน่นอน และจำเลยเลิกจ้างโจทก์ตามสัญญา จึงไม่มีเหตุที่โจทก์จะเรียกร้องค่าชดเชยจากจำเลยได้ ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณาโจทก์จำเลยรับกันว่า จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์รวม ๔ ฉบับ แต่ละฉบับมีกำหนดเวลาสิ้นสุดการจ้างไว้โจทก์แถลงไม่สืบพยานคงสืบแต่พยานจำเลย
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า สัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยแต่ละฉบับมีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการจ้างไว้แน่นอนว่าการจ้างจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ตามสัญญาจ้างทั้ง ๔ ฉบับ เป็นการจ้างโจทก์ให้ทำงานต่อเนื่องกันจากวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๒๒ ถึงวันที่ ๓๐มีนาคม ๒๕๒๔ แต่ความเป็นจริงซึ่งจำเลยนำสืบรับฟังได้ว่าโจทก์ทำงานมาตั้งแต่วันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๒๑ ถึงวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๒๔ โดยไม่ได้ลาออกหรือมีระยะเวลาที่ไม่ทำงานคั่นกลาง การทำสัญญาจ้างแยกเป็น ๔ ฉบับ และระยะเวลาการจ้างแตกต่างกันมีแนวโน้มให้ชวนคิดว่า จำเลยทำสัญญาจ้างเป็นช่วง ๆ เวลาโดยคำนวณให้ใกล้เคียงกับระยะเวลาการทำงานที่จะแล้วเสร็จก็เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน แต่เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ จำเลยไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยให้ จำเลยให้การต่อสู้ว่าเป็นการเลิกจ้างในกรณีที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนและเลิกจ้างตามสัญญา โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยจากจำเลย ตามคำฟ้องและคำให้การคงมีประเด็นโต้เถียงกันเพียงว่าสัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นการจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนหรือไม่เท่านั้น เมื่อโจทก์จำเลยรับข้อเท็จจริงกันแล้วว่า จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์รวม ๔ ฉบับ สัญญาแต่ละฉบับระบุวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดแห่งสัญญาไว้ จึงถือได้ว่าสัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยเป็นการจ้างที่กำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนแล้ว การที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าคดีรับฟังได้ว่าการทำสัญญาจ้างทั้ง ๔ ฉบับ ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ จึงเป็นการพิพากษานอกฟ้อง
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง