แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
การที่ลูกหนี้ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการโดยมิได้แสดงรายชื่อและที่อยู่ของเจ้าหนี้มาพร้อมกับคำร้องขอ ทั้งๆ ที่ได้ปรากฏชื่อเจ้าหนี้ตามเอกสารต่างๆ ของลูกหนี้ที่ทำไว้เป็นหลักฐานสำคัญในการประกอบธุรกิจจัดสรรที่ดินของลูกหนี้ พฤติการณ์แห่งคดีส่อเจตนาของลูกหนี้ว่าจงใจไม่แสดงรายชื่อและที่อยู่ของเจ้าหนี้มาพร้อมคำร้องขอตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/6 วรรคสี่ อันเป็นที่เสียหายแก่เจ้าหนี้เพราะทำให้ศาลล้มละลายกลางไม่ได้ส่งสำเนาคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการแก่เจ้าหนี้และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้แจ้งคำสั่งตั้งผู้ทำแผนและกำหนดเวลาให้เจ้าหนี้เสนอขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อเจ้าหนี้ไม่ทราบคำสั่งแต่งตั้งผู้ทำแผนและกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้มาก่อนหน้านี้ กรณีนับว่ามีเหตุตามกฎหมายให้รับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไว้พิจาณาแม้จะได้ยื่นเมื่อพ้นกำหนดเวลาตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/26 แล้วก็ตาม
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ และตั้งลูกหนี้เป็นผู้ทำแผน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 ต่อมาศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนและตั้งลูกหนี้เป็นผู้บริหารแผนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 ในมูลหนี้ค่าซื้อขายที่ดิน จำนวน 1,369,620.60 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน 564,792 บาท นับแต่วันถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการจนกว่าจะได้รับชำระเสร็จจากลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งไม่รับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เนื่องจากพ้นกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/26 แล้ว
เจ้าหนี้ยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2535 เจ้าหนี้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกับลูกหนี้ โดยชำระเงินมัดจำและผ่อนชำระค่างวดให้ลูกหนี้ครบถ้วนแล้ว เจ้าหนี้ได้แจ้งลูกหนี้ให้แบ่งแยกที่ดินดังกล่าวแล้วโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่เจ้าหนี้หลายครั้งแต่ลูกหนี้มิได้ติดต่อกับเจ้าหนี้เลย ต่อมาเจ้าหนี้ทราบว่าศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้และมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน โดยแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้กำหนดว่า เพื่อรักษาสิทธิของผู้ซื้อที่ดินและผู้ซื้อสมาชิกสนามกอล์ฟไนกรณีที่สามารถฟื้นฟูกิจการได้สำเร็จและสามารถจัดสรรและพัฒนาโครงการจนเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้ผู้ซื้อที่ดินที่ผ่อนเงินดาวน์ไปแล้วบางส่วนมีโอกาสที่จะได้รับที่ดินตามข้อตกลงซื้อขาย เจ้าหนี้จึงมีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ขอให้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำคัดค้านว่า เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้พ้นกำหนด 1 เดือน นับแต่โฆษณาตั้งผู้ทำแผน ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/26 คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ไม่รับคำขอรับชำระหนี้ชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ผู้บริหารแผนยื่นคำคัดค้านว่า ในการยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ ลูกหนี้รวบรวมรายชื่อเจ้าหนี้ได้เท่าที่ปรากฏในเอกสารของลูกหนี้ เมื่อเจ้าหนี้มิได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย เจ้าหนี้จึงหมดสิทธิได้รับชำระหนี้ ทั้งไม่ใช่เจ้าหนี้ที่มีสิทธิจะได้รับโอนที่ดินตามข้อตกลงซื้อขายตามข้อ 2.3.4 ของแผนฟื้นฟูกิจการและยังมีเงื่อนเวลาที่จะต้องดำเนินการตามแผนสำเร็จก่อน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งกลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไว้พิจารณา ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้บริหารแผนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “…ปัญหาตามอุทธรณ์ของผู้บริหารแผนที่ว่า มีเหตุตามกฎหมายที่ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไว้พิจารณาหรือไม่ เห็นว่า เมื่อเจ้าหนี้ได้ชำระเงินงวดค่าที่ดินและค่าจ้างพัฒนาที่ดินให้แก่ลูกหนี้ตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินเอกสารหมาย ร.2 และสัญญาจ้างพัฒนาที่ดินเอกสารหมาย ร.3 เรียบร้อยตามสัญญาแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของลูกหนี้ตามข้อตกลงในสัญญาที่จะต้องดำเนินการแบ่งแยกที่ดินที่พัฒนาแล้วเสร็จและแจ้งกำหนดวันนัดโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่เจ้าหนี้ แม้ลูกหนี้ได้มีหนังสือลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2538 แจ้งให้เจ้าหนี้เตรียมเอกสารสำคัญเพื่อรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยได้จัดเตรียมสถาบันการเงินอัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับเจ้าหนี้ไว้เรียบร้อยแล้วตามเอกสารหมาย จ.6 แต่ลูกหนี้ก็มิได้มีการดำเนินการอย่างใดอีก จนกระทั่งวันที่ 2 มีนาคม 2548 เจ้าหนี้ได้มีหนังสือแจ้งให้ลูกหนี้ปฏิบัติตามสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่เจ้าหนี้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ลูกหนี้ได้รับหนังสือ มิฉะนั้นถือว่าลูกหนี้ผิดสัญญาและให้ถือว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาแก่ลูกหนี้ตามเอกสารหมาย ร.7 เมื่อหนังสือดังกล่าวได้ส่งไปถึงลูกหนี้แล้ว การแสดงเจตนาของเจ้าหนี้ย่อมมีผลนับแต่เวลาที่การแสดงเจตนานั้นไปถึงลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 169 วรรคหนึ่ง แม้ลูกหนี้จะมิได้รับหนังสือนั้นไว้ก็ตาม การที่ลูกหนี้มิได้ปฏิบัติตามสัญญาจนล่วงพ้นกำหนดเวลาตามหนังสือดังกล่าว ถือได้ว่าลูกหนี้เป็นฝ่ายผิดสัญญา และมีผลเป็นการบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและสัญญาจ้างพัฒนาที่ดินเอกสารหมาย ร.2 และ ร.3 แล้วเจ้าหนี้ย่อมไม่มีสิทธิเรียกให้ลูกหนี้ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวได้อีก การที่ลูกหนี้ยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการโดยมิได้แสดงรายชื่อและที่อยู่ของเจ้าหนี้มาพร้อมกับคำร้องขอทั้งๆ ที่ได้ปรากฏชื่อเจ้าหนี้ตามเอกสารต่างๆ ของลูกหนี้ไม่ว่าในสัญญาจะซื้อจะขาย สัญญาจ้างพัฒนาที่ดิน ใบรับเช็คชั่วคราว ใบเสร็จรับเงิน และหนังสือแจ้งเจ้าหนี้ในการเตรียมเอกสารสำคัญเพื่อการโอนที่ดิน ล้วนแต่เป็นเอกสารของลูกหนี้ที่ทำไว้เป็นหลักฐานสำคัญในการประกอบธุรกิจจัดสรรที่ดินของลูกหนี้ที่จะต้องเก็บรักษาไว้โดยปลอดภัย ข้ออ้างของลูกหนี้ที่ว่า ในการยื่นคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการ ลูกหนี้ได้รวบรวมรายชื่อและที่อยู่เจ้าหนี้ได้เพียงเท่าที่ปรากฎในบัญชีรายชื่อและที่อยู่ของเจ้าหนี้ท้ายคำร้องขอจึงไม่สมเหตุผล ย่อมไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง พฤติการณ์แห่งคดีส่อเจตนาของลูกหนี้ว่าจงใจไม่แสดงรายชื่อและที่อยู่ของเจ้าหนี้รายนี้มาพร้อมคำร้องขอตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/6 วรรคสี่ อันเป็นที่เสียหายแก่เจ้าหนี้ เพราะทำให้ศาลล้มละลายกลางไม่ได้ส่งสำเนาคำร้องขอให้ฟื้นฟูกิจการแก่เจ้าหนี้และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้แจ้งคำสั่งตั้งผู้ทำแผนและกำหนดเวลาให้เจ้าหนี้เสนอคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อเจ้าหนี้ไม่ทราบคำสั่งตั้งผู้ทำแผนและกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้มาก่อนหน้านี้ กรณีนับว่ามีเหตุตามกฎหมายให้รับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไว้พิจารณาแม้จะได้ยื่นเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/26 แล้วก็ตาม คำสั่งศาลล้มละลายกลางที่กลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยให้เจ้าพนักงานพิทักษ์รับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไว้พิจารณาชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้บริหารแผนฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ