แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุฟ้องโจทก์ไม่ได้ลงชื่อผู้เรียงฟ้องไว้ เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) ศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในเนื้อหาการกระทำผิดของจำเลยว่าได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ถือไม่ได้ว่ามีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์ฟ้องคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนเด็กชายอุศเรนทร์ได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้รถจักรยานสองล้อของเด็กชายอุศเรนทร์ได้รับความเสียหาย เกิดเหตุแล้วจำเลยหลบหนีไม่หยุดช่วยเหลือและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 29, 30, 66, 68 พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่4) พ.ศ. 2508 มาตรา 7, 13, 15 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 59 ข้อ 6, 11, 13
จำเลยให้การปฏิเสธ และยื่นคำร้องขอให้ศาลชี้ขาดกฎหมายเบื้องต้นว่าโจทก์เคยฟ้องจำเลยตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1787/2519 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ นายสุข เพชรอยู่ จำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว ฟ้องคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า คดีโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 29, 66 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 59 ข้อ 11 ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 8 เดือน กระทงหนึ่ง ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 30, 68 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 59 ข้อ 6, 13 จำคุก 1 เดือน อีกกระทงหนึ่ง รวมโทษจำคุก 9 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่า ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1787/2519 ของศาลจังหวัดขอนแก่น ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ นางบำเพ็ญ ชัยเลิศ โจทก์ร่วม นายสุข เพชรอยู่ จำเลยศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องโจทก์ไม่ได้ลงชื่อผู้เรียงฟ้องไว้ เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) พิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุด โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ จึงเห็นว่าในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1787/2519 ของศาลจังหวัดขอนแก่น ศาลยกฟ้องเพราะเหตุฟ้องโจทก์ไม่ได้ลงชื่อผู้เรียงฟ้อง ยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดในเนื้อหาการกระทำผิดของจำเลยว่าได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ถือไม่ได้ว่ามีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
พิพากษายืน