แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมนั้น ประเด็นข้อนี้แม้จำเลยจะได้เคยยกขึ้นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์แล้วก็ตาม แต่เนื่องจากจำเลยมิได้กล่าวโดยชัดแจ้งในอุทธรณ์ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมอย่างไร เป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยมาแล้ว ถือได้ว่าประเด็นข้อนี้เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามซึ่งเป็นหุ้นส่วนร่วมกันประกอบกิจการค้าโดยใช้ชื่อว่า”ทวีพืชผล” และจำเลยทั้งสองได้นำรถแทรกเตอร์มาว่าจ้างโจทก์ให้ทำการซ่อมแซมและซื้อเครื่องอะไหล่ไปจากโจทก์หลายครั้ง และติดค้างชำระค่าซ่อมและค่าอะไหล่รวมเป็นเงิน ๕๔,๐๕๐ บาท และดอกเบี้ยคึดถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๗,๐๙๔.๐๖ บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามชำระเงินจำนวน ๖๑,๑๔๔.๐๖ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน ๕๔,๐๕๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสามให้การว่า ไม่เคยเป็นหุ้นส่วนร่วมกันประกอบกิจการค้าใช้ชื่อว่า”ทวีพืชผล” และไม่เคยนำรถแทรกเตอร์ไปว่าจ้างโจทก์ทำการซ่อมแซมและซื้อเครื่องอะไหล่ตามฟ้องและฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน ๕๔,๐๕๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ คำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยทั้งสามฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมนั้นประเด็นข้อนี้แม้จำเลยทั้งสามจะได้เคยยกขึ้นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์มาแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสามมิได้กล่าวโดยชัดแจ้งในอุทธรณ์ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมอย่างไร เป็นเหตุให้ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยประเด็นข้อนี้มาแล้ว ถือได้ว่าประเด็นข้อนี้ เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย แล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันประกอบกิจการร้าน “ทวีพืชผล”กับนายทองพูล และจำเลยทั้งสามได้ว่าจ้างโจทก์ซ่อมรถแทรกเตอร์และเป็นหนี้ค่าซ่อมและค่าอะไหล่ตามฟ้อง
พิพากษายืน.