แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อาวุธปืนชนิดปากกาที่จำเลยใช้ยิงผู้เสียหาย ลำกล้องปืนมีความยาว 6 นิ้ว หัวปากกาที่เป็นอาวุธปืนกว้างครึ่งนิ้ว มีปุ่มสำหรับง้างขึ้นลำและกดเพื่อยิง มีร่องสปริง เข็มแทงชนวนและเกลียวสำหรับหมุน เข้าออกเพื่อใส่กระสุน มีรูลำกล้องและปากลำกล้องบรรจุกระสุนปืนขนาด .22 เวลาจะยิงต้องดึงสปริง ขึ้นไปค้างไว้แล้วกดปุ่ม ปลดสปริง ให้ดีด ตัวไปดันเข็มแทงชนวน ใช้ยิงในระยะใกล้ ๆบรรจุกระสุนได้ทีละนัด ลักษณะของอาวุธปืนดังกล่าวและการใช้เหมือนอาวุธปืนพก ดังนั้น การที่จำเลยใช้อาวุธปืนนี้บรรจุกระสุนปืนขนาด .22 ยิงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80,91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 ข้อ 3, 6, 7
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ (ควรจะเป็น 8 ทวิวรรคแรก, 72 วรรคแรก, 72 ทวิ วรรคสอง) คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ข้อ 3, 6, 7 ลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุก 10 ปี ฐานมีอาวุธปืนจำคุก 2 ปี ฐานพาอาวุธปืนจำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 12 ปี 6 เดือน คำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลย 8 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 81ให้จำคุก 5 ปี ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี ลดโทษหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นจำคุก 3 ปี 4 เดือน ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 8 เดือน เมื่อรวมโทษทั้งสองกระทงกับโทษในความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน และทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วเป็นจำคุกจำเลย 4 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 หรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า จำเลยได้ใช้อาวุธปืนชนิดปากกา บรรจุลูกกระสุนขนาด .22 ยิงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ สามารถรักษาให้หายได้ภายใน 7 วัน ตามภาพวาดอาวุธปืนที่พนักงานสอบสวนจัดทำขึ้นตามคำบอกเล่าของจำเลยมีรายละเอียดดังนี้ ลำกล้องปืนมีความยาว 6 นิ้ว ที่หัวปากกาที่เป็นอาวุธปืนกว้างครึ่งนิ้ว มีที่เหน็บเป็นปากกา มีปุ่มสำหรับง้างขึ้นลำและกดเพื่อยิงร่องสปริง และเข็มแทงชนวน เกลียวสำหรับหมุนเข้าออกเพื่อใส่กระสุนมีรูลำกล้องและปากลำกล้อง เวลาจะยิงจะต้องดึงสปริงขึ้นไปค้างไว้แล้วกดปุ่มปลดสปริงให้ดีดตัวไปดันเข็มแทงชนวน ใช้ยิงในระยะใกล้ ๆบรรจุกระสุนได้ทีละนัด เห็นว่า ลักษณะของอาวุธปืนปากกาและลักษณะการใช้อาวุธปืนดังกล่าวเหมือนกับการใช้อาวุธปืนพกทุกประการ จำเลยยืนยิงห่างผู้เสียหายประมาณ 4 เมตร ในลักษณะเฉียงและกระสุนเฉี่ยวไป ผู้เสียหายจึงได้รับอันตรายเพียงบาดเจ็บธรรมดา หากกระสุนแล่นไปถูกในทางตรงและถูกอวัยวะสำคัญก็อาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ จำเลยมิได้นำสืบโต้แย้งว่ามีเจตนาเพียงทำร้ายผู้เสียหายการที่จำเลยใช้อาวุธปืนและกระสุนปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงทำร้ายผู้เสียหาย แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลยจำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายตามโจทก์ฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะปัจจัยที่ใช้ในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 81 ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 ลงโทษจำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษตามมาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงลงโทษจำคุก 6 ปี 8 เดือนเมื่อรวมโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ คงจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 7 ปี 8เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.