คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานมีอำนาจที่จะปรานีประนอมสัญญา ผู้ที่ไม่ใช่คู่สัญญาไม่มีอำนาจที่จะขอร้องให้คู่สัญญาเขาเสียประโยชน์ได้

ย่อยาว

โจทก์ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานเรียกค่าเสียหาย ๗๖ วัน ๆ ละ ๑๕ บาท เปนเงิน ๑๑๔๐ บาท ในฐานที่นายจินวาลาผู้ซื้อที่ดินโฉนดที่ ๘๗๔ ของนายชมไม่ได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปภายในกำหนด ฝ่ายนายจินวาลาผู้ซื้อเถียงว่าตนรื้อช้าไปเพียง ๑๖ วันเท่านั้น และโจทก์ได้ยื่นคำร้องอีกฉะบับหนึ่งขอให้เอาที่ดินเลขที่ ๖๘ ซึ่งรวมขายไปให้นายจินวาลานั้นเอามาขายอีก เพราะในประกาศกองหมายหาได้รวมถึงที่ดินแปลงนั้นไม่ เจ้าพนักงานรักษาทรัพย์เห็นว่าที่จะเอาที่ดินเลขที่ ๖๘ กลับคืนมานั้นอาจเปนการลวงผู้ซื้อ เพราะในประกาศขายโฉนดที่ ๘๗๔ ไม่กล่าวความชัดเจน และกำหนดเวลาที่จะชำระเบี้ยปรับยังโต้เถียงกันอยู่ จึงได้ตกลงกับนายจินวาลาว่าถ้าชำระเงิน ๓๒๙ บาทแล้วจะโอนที่ดินหมายเลข ๖๘ ให้ และเจ้าพนักงานจะเอาเงิน ๘๑๑ บาทที่ขาดจากกองล้มละลายใช้เบี้ยปรับให้แก่โจทก์ตามที่โจทก์ร้องขอมา
โจทกอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลคดีต่างประเทศ ๆ ตัดสินยืนตามคำสั่งเจ้าพนักงานรักษาทรัพย์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืน
โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายว่า ควรจะให้นายจินวาลาใช้เงินค่าปรับคนเดียว ไม่ควรจะหักจากกองล้มละลาย กับขอให้ขายที่ดินหมายเลข ๖๘
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อนายจินวาลายอมใช้เงินถึง ๓๒๙ บาท ซึ่งเกินจากเบี้ยปรับที่นายจินวาลายอมรับผิด ๘๙ บาท และเจ้าพนักงานยอมโอนที่ดินนั้นให้เปนการปราณีประนอมกัน ถ้ามิฉะนั้นจะต้องฟ้องร้องกัน นายอีนานามิได้เปนคู่สัญญาด้วย จะมาร้องคัดค้านไม่ได้ เจ้าพนักงานมีอำนาจที่จะทำได้ตาม พรบ ล้มละลายมาตรา ๑๔ ข้อ ๓ เพราะไม่ปรากฏว่าได้มีการทุจจริตเกิดขึ้น ส่วนที่ดินหมายเลข ๖๘ นั้น ผู้ซื้อไม่ได้กรรมสิทธิตามประกาศขายทอดตลาดโฉนดที่ ๘๗๔ แต่เจ้าพนักงานได้ยินยอมจะโอนให้แก่นายจินวาลา ถ้านายจินวาลาได้ชำระเงิน ๓๒๙ บาทแก่กองล้มละลาย จึงตัดสินยืนตาม

Share