คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2306/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดให้แก่บริษัท ม. เมื่อเกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่ง โจทก์ย่อมจะต้อง รับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ม. ตาม สัญญา เมื่อโจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท ม. แล้ว โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัท ม. โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 4 ผู้กระทำละเมิดและจำเลยที่ 3 ซึ่ง เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 4 ให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของจำเลยที่ 4 ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์รับจ้างบริษัทไม้อัดไทย จำกัดขนส่งไม้อัดจากคลังสินค้าของโรงงานไม้อัดไทยบางนา ไปส่งขึ้นเรือสินค้าต่างประเทศที่ท่าเรือของจำเลยที่ 3 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม2526 โจทก์ได้จ้างจำเลยที่ 1 ขนส่งไม้อัดแผ่นเรียบขนาดต่าง ๆ 200หีบห่อ จำนวน 20,000 แผ่น ราคา 1,228,565.60 บาท จากโรงงานไม้อัดของบริษัทไม้อัดไทย จำกัด ดังกล่าว ไปทำพิธีการศุลกากรณ กองตรวจสินค้าขาออก กรมศุลกากร และหลังจากเสร็จพิธีการดังกล่าวแล้วให้ขนสินค้าดังกล่าวไปขึ้นเรือสินค้าต่างประเทศจำเลยที่ 1 ได้นำเรือฉลอมพร้อมด้วยเรือลากจูงมีจำเลยที่ 2เป็นผู้ควบคุมไปบรรทุกสินค้า เมื่อทำการบรรทุกสินค้าดังกล่าวลงเรือฉลอมแล้ว จำเลยที่ 2 ได้ลากจูงเรือฉลอมไปยังกองตรวจสินค้าขาออกเพื่อปฏิบัติพิธีการศุลกากร จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 และเป็นผู้ควบคุมเรือลากจูง (เรือทัก) หมายเลข 10ของจำเลยที่ 3 ได้ขับเรือลากจูงดังกล่าวแล่นมาด้วยความเร็วสูงมากและแล่นแซงเรือลากจูงของจำเลยที่ 2 ไปด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง เป็นเหตุทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำและคลื่นได้พัดน้ำสาดเข้าไปในเรือฉลอมดังกล่าว และด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 2เช่นเดียวกันแทนที่จะหยุดเรือลากจูงเพื่อให้เรือฉลอมมีโอกาสตั้งลำขึ้นใหม่ จำเลยที่ 2 กลับเร่งเครื่องเรือลากจูงทำให้เรือฉลอมเลิกคว่ำลง สินค้าไม้อัดของผู้ว่าจ้างโจทก์เสียหายจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 4 จึงต้องร่วมรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในฐานะผู้ใช้สิทธิไล่เบี้ย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำนวน 825,743.98 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงิน 783,544.60 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นเจ้าของเรือลากจูง และไม่ได้เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 รับงานจากโจทก์ในลักษณะรับจ้างขนส่งและได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ไปอีกต่อหนึ่งเหตุคดีนี้จำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำโดยประมาท โจทก์จึงไม่อยู่ในฐานะจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอากับจำเลยที่ 1 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องและเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวเป็นเพราะความผิดและประมาทเลินเล่อของโจทก์เอง ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ที่ 4 ให้การว่า จำเลยที่ 4 ไม่มีหน้าที่ควบคุมเรือลากจูงหมายเลข 10 ตลอดเวลาที่เรือดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ไม่ปรากฏว่ามีเรือบรรทุกสินค้าล่มและขณะที่เรือดังกล่าวแล่นกลับท่าจอดเรือได้ใช้ความเร็วประมาณ 4 นอต ถือว่าเป็นความเร็วค่อนข้างต่ำ ไม่อาจจะทำให้เกิดคลื่นซึ่งจะมีขนาดใหญ่พอที่จะทำให้เรือบรรทุกสินค้าซึ่งบรรทุกสินค้าตามปกติล่มได้ จำเลยที่ 1 ที่ 2กระทำโดยประมาท จึงเป็นเหตุให้เรือจำเลยที่ 1 เสียการทรงตัวเมื่อเรือจำเลยที่ 2 ลากไปด้วยความเร็วและด้วยความประมาทเลินเล่อเรือจำเลยที่ 1 จึงล่มลง โจทก์หามีสิทธิไล่เบี้ยเอากับจำเลยที่ 3ที่ 4 ไม่ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แม้โจทก์จะใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัด ไปแล้วก็หาทำให้โจทก์เป็นผู้รับช่วงสิทธิไม่เพราะต้องเป็นผู้รับผิดต่อบริษัทไม้อัดไทย จำกัด อยู่แล้ว จำเลยที่ 3 ที่ 4 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันชำระเงิน 773,981.18 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินตามใบเสร็จรับเงินที่โจทก์ชำระค่าเสียหาย นับแต่วันที่ลงในใบเสร็จรับเงินแต่ละฉบับตามเอกสารหมาย จ.13 (15 ฉบับ)จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 3 ที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า “…โจทก์รับจ้างขนส่งไม้อัดให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัด เมื่อเกิดความเสียหายแก่ไม้อัดที่โจทก์เป็นผู้รับขนส่ง โจทก์ย่อมจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัด ตามสัญญา เมื่อโจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทไม้อัดไทย จำกัด แล้ว โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากบริษัทไม้อัดไทย จำกัด โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 4ผู้กระทำละเมิด และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 4ให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของจำเลยที่ 4 ได้”
พิพากษายืน.

Share