แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ.ป่าไม้ ฯ มาตรา 41 บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดนำไม้หรือของป่าผ่านด่านป่าไม้ในระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ฯลฯ แต่พระราชบัญญัติป่าไม้ไม่มีวิเคราะห์ศัพท์คำว่า “ผ่าน” ก็ต้องตีความหมายธรรมดา (ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน) หมายถึงกิริยาที่ล่วงพ้นไป ตัดไป ลัดไป หรือข้ามไป ฉะนั้น เมื่อคดีได้ความว่าจำเลยเพียงแต่นำไม้เข้ามาในเขตด่านป่าไม้จะแปลว่าจำเลยได้นำไม้ผ่านด่านป่าไม้ไม่ได้ จำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 41.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีใบเบิกทางให้ขนไม้จากอำเภอสังขะเข้ามาในตลาดเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ ครั้นคืนวันที่ ๖ – ๗ สิงหาคม ๒๕๐๘ จำเลยนำไม้แปรรูปบรรทุกรถยนต์เคลื่อนที่ตามถนนสายสุรินทร์-ปราสาท ผ่านหลักเขตด่านป่าไม้ที่หลักกิโลเมตรที่ ๐ เข้าไปในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ โดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๑,๗๒
จำเลยให้การว่า ตามวันเวลาที่โจทก์ฟ้อง ได้นำไม้แปรรูปบรรทุกรถยนต์เคลื่อนที่ไปตามถนนสายสุรินทร์ – ปราสาท ผ่านหลักเขตด่านป่าไม้กิโลเมตร ๐ เข้าไปในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ แต่ไม่ได้ผ่านออกไปจากเขตเทศบาล จำเลยจึงยังไม่ผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามฟ้อง ปรับ ๒๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาว่า การนำไม้เคลื่อนที่เข้าเขตด่านป่าไม้ เป็นการนำไม้เคลื่อนที่ผ่านด่านป่าไม้นั่นเอง การกระทำของจำเลยเป็นผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา ๔๑
ศาลฎีกาปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยนำไม้แปรรูปมีใบเบิกทางอนุญาตให้ขนได้ บรรทุกรถยนต์เข้าไปในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์อันเป็นเขตด่านป่าไม้ในเวลากลางคืน และถูกเจ้าพนักงานจับขณะจอดรถอยู่ในเขตด่านป่าไม้ คดีมีปัญหาว่า การกระทำของจำเลยผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา ๔๑ หรือไม่ มาตรา ๔๑ บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ผ่านด่านป่าไม้ในระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นหนังสือ……………………..” เห็นว่า พระราชบัญญัติป่าไม้ฯ ไม่มีบทวิเคราะห์ศัพท์คำว่า “ผ่าน” ไว้ เมื่อไม่มีบทกฎหมายบัญญัติความหมายไว้เป็นพิเศษโดยเฉพาะให้ความหมายเป็นอย่างอื่นใดแล้ว ก็ต้องตีความหมายธรรมดา(ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน) คือหมายถึงกิริยาที่ล่วงพ้นไป ตัดไป ลัดไป หรือข้ามไป คดีนี้ได้ความว่า จำเลยเพียงแต่นำไม้เข้ามาในเขตด่านป่าไม้เท่านั้น จะแปลความว่า ได้นำไม้ผ่านด่านป่าไม้ดังฎีกาโจทก์หาได้ไม่ จำเลยยังไม่มีความผิดตามมาตรา ๔๑ พิพากษายืน.