แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำสัญญาไว้กับมารดาโจทก์ว่าห้องแถว 4 ห้องที่จำเลยปลูกขึ้นในที่ดินของมารดาโจทก์ 2 ห้องยกให้กับมารดาโจทก์ อีก 2 จำเลยเข้าครอบครองและภายใน 10 ปีนับแต่วันสร้างห้องแถว เมื่อมารดาโจทก์ตายโดยยังไม่ได้ซื้อ สิทธิของมารดาโจทก์อันเกิดจากสัญญาที่ทำไว้กับจำเลยตาม ก.ม. ถือว่าเป็นส่วนของกองมรดกของผู้ตายย่อมตกทอดไปยังโจทก์ผู้เป็นทายาทและสิทธิดังกล่าวมาแล้วนี้ตาม ก.ม. หรือโดยสภาพแล้วไม่ใช่เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากับนางนพแก้ว ศรีนนท์มารดาโจทก์ว่าจำเลยจะลงทุนสร้างห้องแถว ๔ ห้องในที่ดินของนางนพแก้ว ๒ ห้องยกให้นางนพแก้วโดยไม่คิดมูลค่า อีก ๒ ห้องจำเลยจะถือสิทธิอยู่ภายใน ๑๐ ปีนับแต่วันสร้างห้องแถวเสร็จเมื่อนางนกแก้วต้องการซื้อห้องแถว ๒ ห้อง จำเลยจะขายให้เท่าราคาที่ลงทุนก่อสร้าง จำเลยได้มอบห้องแถว ๒ ห้องให้นางนพแก้วครอบครองและส่งบัญชีลงทุนสร้างห้องแถว ๔ ห้องเป็นเงิน ๑๓,๐๒๕ บาท ต่อมานางนพแก้วตายสิทธิและทรัพย์มรดกต่าง ๆ ของนางนกแก้วตกทอดมาถึงโจทก์ ๆ สรวมสิทธิแทนนางนพแก้วได้ส่งหนังสือแสดงความจำนงขอซื้อห้องแถวเฉพาะ ๒ ห้องที่จำเลยถือสิทธิจากจำเลยตามสัญญาในราคาครึ่งหนึ่งของจำนวนห้องแถว ๔ ห้องเป็นราคาเงิน ๖๕๑๒ บาท จำเลยได้รับหนังสือของโจทก์แล้วจำเลยเพิกเฉยเสีย โจทก์ถือว่าจำเลยผิดสัญญาซื้อขายและความตกลงกันไว้ ขอให้ศาลบังคับคดีให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาและความตกลง
จำเลยให้การรับว่าจำเลยกับนางนพแก้วมารดาโจทก์ได้ทำหนังสือสัญญาไว้ต่กันจริงข้อความเป็นไปตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเว้นแต่ราคาห้องแถว ๒ ห้องซึ่งเป็นส่วนของจำเลย ๆ จะขายให้เท่าราคาที่ก่อสร้างทั้งหมด หาใช่ราคาก่อสร้างเพียง ๒ ห้องไม่ เรื่องนี้ถ้าโจทก์มีสิทธิ์ซื้อได้จำเลยก็จะขายให้ แต่ให้โจทก์ใช้ราคาก่อสร้างห้องแถวทั้งหมด และค่าวัตถุสัมภาระซ่อมแซมและค่าจ้างซ่อมแซมที่จำเลยจ่ายรวม ๒๕๐ บาท และจะขายเฉพาะห้องแถว ๒ ห้อง ส่วนที่ดินที่ตั้งห้องแถวและครัวไฟที่นางนพแก้วให้ตามสัญญาซื้อ ๕ จำเลยไม่ขาย และตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องได้เพราะเป็นสัญญาซื้อจะขายต้องห้ามตาม ก.ม. และคดีขาดอายุความแล้ว เพราะเจ้ามรดกตายเกิน ๑ ปี
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลจะวินิจฉัยได้แล้ว จึงให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยเสียและวินิจฉัยว่าสัญญาระหว่างนางนพแก้วกับจำเลยระงับไปแล้ว เพราะเป็นบุคคลสิทธิจึงพิพากษายกฟ้อง
แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าสัญญาระหว่างมารดาโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนเกี่ยวกับทรัพย์สินและเห็นว่า++มารดาโจทก์ที่จะซื้อห้องพิพาท ๒ ห้องตามคำมั่นของจำเลยเป็นกองมรดกของมารดาโจทก์ตกทอดมายังโจทก์ผู้เป็นทายาทใช้สิทธิซื้อห้องพิพาท ๒ ห้องจากจำเลยตามสัญญาได้ แต่คดียังมีประเด็นโต้เถียงกันอยู่ซึ่งอาจต้องฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาแล้วกรณีนี้เป็นเรื่องสิทธิของนางนพแก้วมารดาโจทก์อันเกิดจากสัญญาซึ่งทำไว้กับจำเลยสิทธินี้ตามกฎหมายถือว่าเป็นส่วนของกองมรดกของผู้ตายย่อมตกทอดมายังโจทก์ผู้เป็นทายาทและสิทธิในอันจะได้ซื้อห้องพิพาทตามสัญญารายนี้ตาม ก.ม.หรือโดยสภาพแล้วไม่ใช่เป็นการเฉพาะตัวของนางนพแก้วโดยแท้ (ป.พ.พ. ม.๑๖๐๐) อนึ่ง ในการวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ไม่เกี่ยวกับข้อที่ว่าเป็นบุคคลสิทธิหรือทรัพย์สิทธิดังกล่าวคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นแต่อย่างใด ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน.