แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวโดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนญวนอพยพ ต่อมาจำเลยหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองมาตรา 39 ให้ถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเป็นอันสิ้นสุด ดังนี้เมื่อจำเลยกลับเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรอีกก็ต้องเป็นความผิดตามมาตรา 81 การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายมีคำสั่งอนุมัติให้ถอนชื่อจำเลยจากทะเบียนญวนอพยพ คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะการถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพกับการอนุญาตถูกเพิกถอนเป็นคนละกรณีกัน ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15, 215, 225.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนญวน ได้อยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะจำเลยถูกถอนชื่อออกจากทะเบียนญวนอพยพ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๘๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก ๒ เดือน ปรับ ๒,๐๐๐ บาท รอการลงโทษไว้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มิได้มีบทบัญญัติใดให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดถอนชื่อคนญวนอพยพออกจากทะเบียนญวนอพยพโดยมิได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือคณะกรรมการตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๓๖ วรรคหนึ่ง และไม่ปรากฏว่าผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้รับมอบอำนาจให้มีอำนาจเพิกถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพแต่อย่างใด คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้วว่า จำเลยซึ่งเป็นคนญวนอพยพได้หลบหนีไปอยู่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาวเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๒๕ นายกุศล ศานติธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายได้อนุมัติให้ถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพ สำนักงานกิจการญวน จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๒๕ ตามบันทึกข้อความเรื่องขออนุมัติถอนชื่อคนญวนอพยพออกจากทะเบียนญวนอพยพ
เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๘๑ บัญญัติว่า คนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอนต้องระวางโทษฯลฯ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราวโดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนญวนอพยพและมีบัตรประจำตัวเลขที่ นค.๑ – ๒๕๙๐ ต่อมาจำเลยหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง มาตรา ๓๙ ให้ถือว่าการได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเป็นอันสิ้นสุด เมื่อจำเลยกลับเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรอีก ก็ต้องเป็นความผิดตามมาตรา ๘๑ ที่เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายมีคำสั่งอนุมัติให้ถอนชื่อจำเลยจากทะเบียนญวนอพยพ คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่จึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะการถอนชื่อจำเลยออกจากทะเบียนญวนอพยพกับการอนุญาตถูกเพิกถอนเป็นคนละกรณีกันฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ มาตรา ๒๑๕ และมาตรา ๒๒๕ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย.