แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่ ฉ. เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ทอดตลาดปรึกษากับ ป.ผู้อำนวยการกองบังคับคดีแพ่งแล้วได้เรียก พ. ผู้เข้าสู้ราคาเข้าไปคุยแม้ ม. ผู้รับมอบอำนาจจำเลยทั้งสองให้มาดูแลการขายทอดตลาดไม่ได้ยินการคุยกันต่อจากนั้น ฉ. ประกาศถาม พ.อีกว่าจะให้ราคาสูงกว่า38,000,000บาทหรือไม่ พ. ได้ยืนขึ้นเสนอให้ราคาเป็น40,000,000บาทการกระทำของ ฉ. และ พ.ดังกล่าวส่อเจตนาว่า ฉ. ได้เรียก พ. ไปแนะนำให้เสนอราคาเพิ่มให้สูงกว่าราคาที่ผู้คัดค้านประเมินไว้เพื่อที่ ป. จะอนุมัติให้ ฉ. ขายให้แก่ พ. นั่นเองการที่ พ. เสนอราคาเพิ่มเป็น40,000,000บาทแล้ว ป. อนุมัติให้ขายได้เช่นนี้ส่อพิรุธเป็นข้อสงสัยได้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดโดยสมรู้ราคากับพ. ผู้เข้าสู้ราคาซึ่งเป็นผู้ซื้อได้การขายทอดตลาดทรัพย์จึงไม่ชอบ
ย่อยาว
คดี สืบเนื่อง มาจาก โจทก์ ฟ้อง ขอให้ จำเลย ทั้ง สอง เป็น บุคคล ล้มละลายศาลชั้นต้น มี คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เด็ดขาด และ พิพากษา ให้ จำเลย ทั้ง สองเป็น บุคคล ล้มละลาย ผู้คัดค้าน ได้ ยึด ที่ดิน ของ จำเลย ที่ 1 หลาย แปลงออก ขายทอดตลาด เพื่อ นำ เงิน มา แบ่ง ให้ แก่ บรรดา เจ้าหนี้ รวมทั้งที่ดิน โฉนด เลขที่ 11374 และ 11654 ด้วย
จำเลย ทั้ง สอง ยื่น คำร้อง ว่า ผู้คัดค้าน ได้ ให้ เจ้าพนักงานบังคับคดี ดำเนินการ ขายทอดตลาด ที่ดิน โฉนด เลขที่ 11374 และ 11654เมื่อ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2535 เวลา 9 นาฬิกา จำเลย ทั้ง สอง มอบอำนาจให้ นาย เมือง เตชะเกิดกมล ไป ดูแล การ ขายทอดตลาด แทน จำเลย ทั้ง สอง มี ผู้ เข้า สู้ราคา เพียง 1 ราย คือ นาย ไพโรจน์ ทศพรวิชัย ใน ฐานะ ส่วนตัว และ ใน ฐานะ ผู้รับมอบอำนาจ จาก นาย ไพบูลย์ ทศพรวิชัย และ นางสาว มณีรัตน์ ทศพรวิชัย นาย ไพโรจน์ เสนอราคา ทั้ง สอง แปลง รวม 38,000,000 บาท เจ้าพนักงาน บังคับคดี ประกาศ สอบถาม นาย ไพโรจน์ ถึง 5 ครั้ง ว่า จะ ให้ ราคา สูง ขึ้น อีก หรือไม่ นาย ไพโรจน์ ไม่ยอม ให้ ราคา สูง กว่า นี้ หลังจาก นั้น เจ้าพนักงาน บังคับคดี พร้อม ด้วย ผู้คัดค้านเข้า ไป พบ นาย ปรีดี ลีนะวัต ผู้อำนวยการ กองบังคับคดีแพ่ง 3ใน ห้องทำงาน เพื่อ ปรึกษา และ เจ้าพนักงาน บังคับคดี กลับ เข้า มาประจำ ที่ เดิม และ เรียก นาย ไพโรจน์ เข้า ไป เจรจา สักครู่ หนึ่ง นาย ไพโรจน์ กลับ เข้า มา ที่ เดิม เจ้าพนักงาน บังคับคดี ถาม ว่า มี ผู้ใด จะ ให้ ราคา สูง กว่า นี้ หรือไม่ นาย ไพโรจน์ จึง เสนอราคา 40,000,000 บาท ผู้แทน จำเลย ได้ คัดค้าน การกระทำ ของ เจ้าพนักงาน บังคับคดี ว่ามี พฤติการณ์ ทุจริต ใน การ ขายทอดตลาด และ สมรู้ กับ ผู้ เข้า สู้ราคาเจ้าพนักงาน บังคับคดี ได้ เคาะ ไม้ ขาย ให้ นาย ไพโรจน์ ไป ใน ราคา 40,000,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ เป็น การ ขาย ครั้งแรก ผู้คัดค้าน ได้ ประเมินราคา ที่ดิน ทั้ง สอง แปลง ไว้ 39,960,000 บาท ราคา ที่ ซื้อ ขาย กันใน ท้องตลาด 60,000,000 บาท ขอให้ เพิกถอน การ ขายทอดตลาด ที่ดินทั้ง สอง แปลง
ผู้คัดค้าน ยื่น คำคัดค้าน ว่า เมื่อ วันที่ 12 พฤษภาคม 2535ผู้คัดค้าน ได้ ยึด ที่ดิน โฉนด เลขที่ 11374 และ 11654 และ ได้ ประเมินราคา ที่ดิน ทั้ง สอง แปลง เป็น เงิน 39,960,000 บาท เจ้าพนักงาน ประเมินราคา ทรัพย์ สำนักงาน วางทรัพย์ กลาง ได้ ประเมิน ราคา ไว้ เป็น เงิน39,405,000 บาท เมื่อ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2535 ผู้คัดค้าน ให้เจ้าพนักงาน บังคับคดี ดำเนินการ ขายทอดตลาด มี ผู้ เข้า ฟัง การ ขายทอดตลาด50 คน และ เป็น การ ขายทอดตลาด โดย เปิดเผย มี ผู้ เข้า สู้ราคา 1 รายคือ นาย ไพโรจน์ ทศพรวิชัย ซึ่ง เข้า สู้ราคา ทั้ง ใน ฐานะ ส่วนตัว และ ผู้รับมอบอำนาจ จาก นาย ไพบูลย์และนางสาวมณีรัตน์ นาย ไพโรจน์ ได้ เสนอราคา 38,000,000 บาท และ ไม่มี ผู้ใด ให้ ราคา สูง กว่า นี้เจ้าพนักงาน บังคับคดี ได้ เสนอ สำนวน ให้ ผู้บังคับบัญชา คือ นาย ปรีดี ลีนะวัต ผู้อำนวยการ กองบังคับคดีแพ่ง 3 เพื่อ พิจารณา ผู้บังคับบัญชา ให้ ประกาศ ขาย ต่อไป เจ้าพนักงาน บังคับคดี ได้ เรียกนาย ไพโรจน์ มา สอบถาม เพื่อ จะ ยืนยัน ราคา เดิม อยู่ หรือไม่ นาย ไพโรจน์ เสนอราคา 40,000,000 บาท และ ไม่มี ผู้ใด เสนอราคา สูง กว่า นี้ อีกเจ้าพนักงาน บังคับคดี ได้ เสนอ ผู้บังคับบัญชา พิจารณา ผู้บังคับบัญชาสอบถาม ผู้คัดค้าน ว่า จะ ค้าน หรือไม่ ผู้คัดค้าน ไม่ค้าน ส่วน ผู้แทนของ จำเลย ทั้ง สอง ได้ ค้าน ราคา ผู้บังคับบัญชา เห็นว่า สูง กว่า ราคาประเมิน จึง อนุญาต ให้ ขาย การ ขายทอดตลาด ของ เจ้าพนักงาน บังคับคดีและ ผู้คัดค้าน ได้ ดำเนินการ ขาย โดยสุจริต และ ชอบ ด้วย กฎหมาย แล้วจำเลย ทั้ง สอง ไม่ ใส่ ใจ หา ผู้ มา สู้ราคา ให้ สูง กว่า นี้ ขอให้ ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ให้ เพิกถอน การ ขายทอดตลาด ที่ดินโฉนด เลขที่ 11374 และ 11654 ให้ ผู้คัดค้าน และ เจ้าพนักงาน บังคับคดีดำเนินการ ขายทอดตลาด ใหม่
ผู้คัดค้าน อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ผู้คัดค้าน ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ข้อเท็จจริง ฟังได้ เป็น ยุติ ใน เบื้องต้น ว่าเมื่อ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2535 เวลา ประมาณ 9 นาฬิกา ผู้คัดค้านได้ ให้ เจ้าพนักงาน บังคับคดี ทำการ ขายทอดตลาด ที่ดิน โฉนด เลขที่ 11374และ 11654 ของ จำเลย ที่ 1 ปรากฏว่า นาย ไพโรจน์ นาย ไพบูลย์ และ นางสาว มณีรัตน์ ทศพรวิชัย ร่วมกัน เป็น ผู้ซื้อ ได้ ใน ราคา สูงสุด 40,000,000 บาท มี ปัญหา ที่ จะ ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ ผู้คัดค้าน ว่าการ ขายทอดตลาด ที่ดิน ทั้ง สอง แปลง ชอบ ด้วย กฎหมาย หรือไม่ จำเลย ทั้ง สองและ ผู้คัดค้าน นำสืบ รับ กัน ว่า ผู้คัดค้าน ได้ ประเมิน ราคา ที่ดินทั้ง สอง แปลง ไว้ เป็น เงิน 39,960,000 บาท ตาม เอกสาร หมาย จ.ท. 1จ.ท. 2 และ มี ราคาประเมิน ของ กรมที่ดิน ราคา ซื้อ ขาย และ ราคาประเมินของ สำนักงาน วางทรัพย์ กลาง กรมบังคับคดี ตาม เอกสาร หมาย ล. 2 (จ.ท. 5)มี ผู้ เข้า สู้ราคา 1 ราย คือ นาย ไพโรจน์ นายไพบูลย์ และ นางสาว มณีรัตน์ ร่วมกัน เข้า สู้ราคา โดย นาย ไพโรจน์ ได้รับ มอบอำนาจ ให้ เป็น ผู้ เข้า สู้ราคา ตาม เอกสาร หมาย ล. 3 (จ.ท. 7) เมื่อ เจ้าพนักงานบังคับคดี ดำเนินการ ขายทอดตลาด นาย ไพโรจน์ เสนอราคา 38,000,000 บาท นาย เฉลิมชัย บัวจันอัด เจ้าพนักงาน บังคับคดี ได้ ประกาศ ซ้ำ ๆ กัน ถึง 5 ครั้ง ว่า นาย ไพโรจน์ จะ ให้ ราคา สูง กว่า นี้ หรือไม่ นาย ไพโรจน์ ได้ ยืนยัน ราคา เดิม นาย เฉลิมชัย จึง เข้า ไป ปรึกษา นาย ปรีดี ลีนะวัต ผู้อำนวยการ กองบังคับคดีแพ่ง 3 แล้ว ออก มา เรียก นาย ไพโรจน์ เข้า ไป พบ ที่ โต๊ะ ขายทอดตลาด นาย ไพโรจน์ เสนอ ราคา เพิ่ม เป็น 40,000,000 บาท นาย เฉลิมชัยและนายภุชพงศ์ จรัสทรงกิติ เจ้าพนักงาน บังคับคดี ได้ นำ สำนวน ไป เสนอ นาย ปรีดี ซึ่ง นาย ปรีดี ได้ อนุมัติ ให้ ขาย ได้ เห็นว่า การ ขายทอดตลาด ที่ดิน ทั้ง สอง แปลง เป็น การ ขาย ครั้งแรก มี ผู้ เข้า สู้ราคา เพียง ราย เดียวที่ดิน มี ราคา สูง การ ประเมิน ราคา ของ กรมที่ดิน ก็ ถูก กว่า ราคา ซื้อ ขายซึ่ง คง ได้ แก่ ราคา ท้องตลาด ถึง 3 เท่า เศษ ส่วน ราคาประเมิน ของสำนักงาน วางทรัพย์ กลาง ก็ ถูก กว่า ราคา ท้องตลาด ถึง 20,495,000 บาทเหตุ ที่นาย เฉลิมชัย ประกาศ ถาม นาย ไพโรจน์ ว่า จะ ให้ ราคา สูง กว่า นี้ หรือไม่ ซ้ำ กัน ถึง 5 ครั้ง นั้น ก็ คง เห็นว่า ถ้า ไม่ เพิ่มขึ้น อีก ราคา ที่ เสนอ ไว้ 38,000,000 บาท น่า จะ ยัง ไม่ เพียงพอซึ่ง อาจ ถอน ทรัพย์สิน จาก การ ทอดตลาด นั่นเอง แต่ นาย ไพโรจน์ ก็ ไม่ เสนอ เพิ่ม ทั้งนี้ คง เพราะ เห็นว่า ไม่มี ใคร เข้า สู้ราคา แข่งอยู่ แล้ว นาย เฉลิมชัย จึง เข้า ไป ปรึกษา นาย ปรีดี ลีนะวัต ผู้อำนวยการ กองบังคับคดีแพ่ง 3 นาย ปรีดี สั่ง ให้ ดำเนินการ ขายทอดตลาด ต่อไป แสดง ว่า นาย ปรีดี ไม่ยอม อนุมัติ ให้ ขาย ใน ราคา ที่ นาย ไพโรจน์ เสนอ การ ที่นาย เฉลิมชัย เรียก นาย ไพโรจน์ เข้า ไป หา ที่ โต๊ะ ขายทอดตลาด แล้ว นาย ไพโรจน์ ได้ เสนอราคา เพิ่ม เป็น 40,000,000 บาท ซึ่ง เพิ่ม อีก เพียง 2,000,000 บาท และ สูง กว่าราคา ที่ ผู้คัดค้าน ประเมิน ไว้ เพียง 40,000 บาท นั้น นาย ไพโรจน์ คง ได้รับ คำแนะนำ จาก นาย เฉลิมชัย นั่นเอง คง ไม่ใช่ นาย ภุชพงศ์ เรียก ไป ถาม ว่า คุณ ใช่ ไหม ที่ เป็น คน เสนอราคา 38,000,000 บาทเพราะ มี นาย ไพโรจน์ เข้า สู้ราคา เพียง คนเดียว ซึ่ง ไม่มี เหตุผล อะไร ที่ จะ ต้อง เรียก เข้า ไป สอบถาม อีก ตาม รายงาน การ ขาย อสังหาริมทรัพย์เอกสาร หมาย จ.ท. 8 ก็ ไม่มี ชื่อ ของ นาย ภุชพงศ์ เลย แสดง ว่า นาย ภุชพงศ์ ไม่ใช่ เจ้าพนักงาน บังคับคดี ผู้รับผิดชอบ ซึ่ง เป็น ผู้ทอดตลาด โดยตรง ดังนั้น นาย ภุชพงศ์ จะ เรียก นาย ไพโรจน์ เข้า ไป สอบถาม เพื่อ อะไร การ ขายทอดตลาด ครั้งนี้ คง อยู่ ใน ความรับผิด ชอบของ นาย เฉลิมชัย นาย เฉลิมชัย จึง เป็น ผู้ที่ ทราบ เรื่อง นี้ ดี ที่สุด แต่ ผู้คัดค้าน ก็ ไม่ได้ นำ นาย เฉลิมชัย มา เป็น พยาน นาย เมือง เบิกความ ว่า เมื่อ นาย ไพโรจน์ เสนอราคา 40,000,000 บาท นาย เฉลิมชัย ได้ ประกาศ ว่า มี ผู้ใด จะ ให้ ราคา สูง กว่า 40,000,000 บาท อีก หรือไม่ พยาน ได้ คัดค้าน ว่าการ กระทำ ของ เจ้าพนักงาน บังคับคดีและ ผู้คัดค้าน สมรู้ กับ ผู้ประมูล และ ตาม เอกสาร หมาย จ.ท. 8 ก็ ปรากฏว่านาย เมือง ได้ คัดค้าน ราคา ไว้ ด้วย ข้อเท็จจริง จึง ฟังได้ ว่า นาย เมือง ผู้รับมอบอำนาจ จำเลย ทั้ง สอง ให้ มา ดูแล การ ขายทอดตลาด ครั้งนี้ ได้ คัดค้าน ไว้ จริง การ ที่นาย เฉลิมชัย เข้า ไป ปรึกษา กับ นาย ปรีดี แล้ว ได้ เรียก นาย ไพโรจน์ เข้า ไป คุย โดย นาย เมือง ไม่ได้ยิน การ คุย กัน ต่อ จาก นั้น นาย เฉลิมชัย ประกาศ ถาม นาย ไพโรจน์ อีก ว่า จะ ให้ ราคา สูง กว่า 38,000,000 บาท หรือไม่ นาย ไพโรจน์ ได้ ยืน ขึ้น เสนอ ให้ ราคา เป็น 40,000,000 บาท การกระทำ ของ นาย เฉลิมชัย และ นาย ไพโรจน์ ดังกล่าว ส่อเจตนา ว่า นาย เฉลิมชัย ได้ เรียก นาย ไพโรจน์ ไป แนะนำ ให้ เสนอราคา เพิ่ม ให้ สูง กว่า ราคา ที่ ผู้คัดค้าน ประเมิน ไว้ เพื่อ ที่นาย ปรีดี จะ อนุมัติ ให้ นาย เฉลิมชัย ขาย ให้ แก่ นาย ไพโรจน์ นั่นเอง การ ที่นาย ไพโรจน์ เสนอราคา เพิ่ม เป็น 40,000,000 บาท แล้ว นาย ปรีดี อนุมัติ ให้ ขาย ได้ เช่นนี้ ส่อพิรุธ เป็น ข้อสงสัย ได้ว่า เจ้าพนักงาน บังคับคดี ขายทอดตลาด โดย สมรู้ ราคา กับผู้ เข้า สู้ราคา ดังนั้น การ ขายทอดตลาด ทรัพย์ จึง ไม่ชอบ
พิพากษายืน