คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3675/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 มาตรา 57 กำหนดระยะเวลาให้คู่กรณีหรือผู้มีส่วนในการเช่านาที่ไม่พอใจคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัด ยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยได้อย่างช้าที่สุดไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่ คชก.จังหวัดมีคำวินิจฉัย กำหนดระยะเวลาดังกล่าวไม่คำนึงถึงว่าผู้อุทธรณ์ได้ทราบถึงคำวินิจฉัยนั้นแล้วหรือไม่ เมื่อ คชก.จังหวัดมีคำวินิจฉัย วันที่ 29 พฤษภาคม 2533 แต่โจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยในวันที่ 13 สิงหาคม 2533ซึ่งพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ คชก.จังหวัดมีคำวินิจฉัยโจทก์จึงไม่มีอำนาจอุทธรณ์คำวินิจฉัยนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 11951 ซื้อจากนายฤทธิ์ จำเลยที่ 1 เป็นผู้เช่าที่ดินนายฤทธิ์ทำนา จำเลยที่ 2 มีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจำเลยที่ 3 เป็นกรรมการของคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบลมีคำวินิจฉัยให้โจทก์มีสิทธิในที่ดิน และไม่ให้จำเลยที่ 1 ยุ่งเกี่ยวที่ดินดังกล่าว จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคชก.ตำบลต่อ คชก.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คชก.จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มีคำวินิจฉัยให้จำเลยที่ 1 มีสิทธิเช่านาได้ โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2533 และได้รับรายงานการประชุม คชก.จังหวัด ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2533 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2533 ซึ่งทำให้โจทก์ต้องยื่นคำฟ้องในคดีนี้เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้โจทก์ไม่เห็นด้วยต่อคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดดังกล่าวขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัดมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2533 โจทก์อุทธรณ์พ้นกำหนด 60 วัน นับแต่คณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัดมีคำวินิจฉัย จึงไม่รับอุทธรณ์ คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ. 2524 มาตรา 57 บัญญัติว่า คู่กรณีหรือผู้มีส่วนได้เสียในการเช่านาที่ไม่พอใจคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัด มีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดแต่จะต้องไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่ คชก.จังหวัดมีคำวินิจฉัยเห็นว่า ตามบทบัญญัติดังกล่าวให้สิทธิคู่กรณีหรือผู้มีส่วนได้เสียในการเช่านาที่ไม่พอใจคำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัด ยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ คชก.จังหวัดไว้อย่างช้าที่สุดไม่เกินหกสิบวันนับแต่วันที่ คชก.จังหวัดมีคำวินิจฉัย ซึ่งกำหนดระยะเวลาอย่างช้าที่สุดดังกล่าวนั้นไม่คำนึงถึงว่าผู้อุทธรณ์ได้ทราบถึงคำวินิจฉัยนั้นแล้วหรือไม่ ดังนั้น เมื่อ คชก. จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีคำวินิจฉัยในวันที่ 29 พฤษภาคม 2533 โจทก์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยดังกล่าวในวันที่ 13 สิงหาคม 2533 ซึ่งพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ คชก.จังหวัดมีคำวินิจฉัยแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจอุทธรณ์คำวินิจฉัยนั้นได้
พิพากษายืน

Share