คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยว่าจะรับเป็นคำให้การเพิ่มเติมหรือไม่นั้นศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การนี้เสียก่อนแล้วจึงให้ดำเนินการพิจารณาต่อไปได้
การที่โจทก์โต้แย้งในชั้นฎีกา โดยโจทก์มิได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ถือว่าไม่ปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
หากศาลชั้นต้นได้สั่งให้รับคำให้การเพิ่มเติมแล้วย่อมเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะสั่งว่า จะให้สืบในข้อต่อสู้นั้นหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้รับเงินโจทก์ไป 8,000 บาท จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยผิดนัด ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินต้นและดอกเบี้ย

จำเลยที่ 1 ให้การว่าไม่ได้กู้ เป็นเรื่องโจทก์จำเลยเล่นแชร์เปียหวยกัน

จำเลยที่ 2 ให้การว่า สัญญาท้ายฟ้องโจทก์ไม่ใช่สัญญาที่แท้จริงหากจำเลยเขียนขึ้นก็เป็นสัญญาที่จำเลยทำขึ้นฝ่ายเดียวโดยไม่มีการตกลงใด ๆ กับโจทก์

ต่อมาจำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การว่า สัญญาค้ำประกันตามฟ้อง หากมีผลบังคับได้ สัญญานี้ก็ระงับสิ้นไปเพราะโจทก์กับจำเลยที่ 1 ตกลงคืนทรัพย์สินที่ค้ำประกันหนี้รายนี้ต่อกัน และปล่อยให้จำเลยที่ 1 ย้ายจำหน่ายทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 เสียโดยมิได้จัดการบังคับ เป็นการผ่อนเวลาให้จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ไม่ทราบ ทั้งได้ขอให้ฟ้องบังคับแล้วก็เพิกเฉยเสีย

ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน วินิจฉัยว่าจำเลยรับว่าเป็นผู้กู้และค้ำประกัน เรื่องเงินเล่นแชร์จำเลยนำสืบไม่ได้ เพราะเป็นการสืบเพิ่มเติมแก้ไขข้อความในสัญญา พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ ให้จำเลยที่ 2 ชำระแทน

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เมื่อจำเลยที่ 2 ให้การต่อสู้เป็นประเด็นด้วยว่าโจทก์ผ่อนเวลาการชำระหนี้ให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกหนี้โดยจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันไม่ทราบเช่นนี้ ควรให้สืบพยานต่อไปได้ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่ต้องสืบพยานต่อไปและพิพากษานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลอุทธรณ์ จึงพิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปความ

โจทก์ฎีกาขอให้โจทก์ชนะคดีโดยไม่ต้องสืบพยาน

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยที่ 2 ว่าจะรับเป็นคำให้การเพิ่มเติมหรือไม่ และไม่ได้ยกประเด็นตามคำให้การเพิ่มเติมนี้ขึ้นวินิจฉัยแต่ประการใด จึงชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การเสียก่อน แล้วจึงดำเนินการพิจารณาต่อไปได้

ที่โจทก์โต้แย้งในฎีกาว่า ศาลชั้นต้นมิได้สั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การจำเลยที่ 2 ไม่โต้แย้ง ถือว่าไม่ติดใจในข้อต่อสู้เห็นว่าข้อฎีกาที่โจทก์โต้แย้งขึ้นมานี้โจทก์มิได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.249 ไม่มีประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

อนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเลยไปถึงว่า ควรให้สืบพยานในประเด็นที่โจทก์ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่จำเลยที่ 1 ลูกหนี้ตามคำให้การเพิ่มเติมของจำเลยที่ 2 ต่อไปนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย เพราะยังไม่มีการสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การถ้าหากว่าศาลชั้นต้นได้สั่งให้รับคำให้การเพิ่มเติมแล้ว จะให้สืบพยานในข้อต่อสู้นี้หรือไม่ ย่อมเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะสั่ง

จึงพิพากษายืน

Share