คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3662/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ป.วิ.พ. มาตรา 40 มีเจตนารมณ์ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาโดยมิชักช้า การเลื่อนคดีก็อนุญาตให้เลื่อนคดีได้เพียงครั้งเดียว คู่ความที่ได้รับอนุญาตให้เลื่อนคดีไปแล้วจะขอเลื่อนคดีอีกได้ก็ต่อเมื่อเข้าข้อยกเว้น คือมีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ จำเลยเคยขอเลื่อนคดีมาแล้วด้วยเหตุพยานจำเลยติดธุระมาศาลไม่ได้ และในนัดก่อนศาลได้กำชับว่าหากจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะเหตุเกี่ยวกับพยานจำเลยอีกจะถือว่าจำเลยประวิงคดี แต่เมื่อถึงวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีกครั้งนี้อ้างว่าทนายจำเลยติดธุระสำคัญมาศาลไม่ได้ โดยไม่ปรากฏว่าติดธุระอะไรและสำคัญเร่งด่วนอย่างไร พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวแสดงว่าจำเลยประวิงคดี ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีอีกจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระหนี้เงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีจำนวน ๗๕๔,๓๙๑.๖๓ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๗๓๔,๑๗๖.๖๕ บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ มิฉะนั้นให้นำทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ หากขายได้ไม่พอชำระหนี้ให้โจทก์ยึดทรัพย์อื่นชำระหนี้จนครบถ้วน
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ ๑ ไม่เคยเบิกเงินเกินบัญชีจากโจทก์ จำเลยที่ ๒ ค้ำประกันจำเลยที่ ๑ เมื่อจำเลยที่ ๑ ยกเลิกบัญชีไปแล้ว จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิด คดีโจทก์ขาดอายุความฐานลาภมิควรได้ ฟ้องเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำสืบก่อนแล้วให้จำเลยแก้วันนัดสืบพยานจำเลยซึ่งเหลือพยานบุคคลที่จำเลยจะสืบเป็นปากสุดท้าย จำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่า ทนายจำเลยติดธุระสำคัญศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยประวิงคดี จึงสั่งคัดพยานจำเลย แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๗๓๘,๑๗๖.๖๕ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๓๐ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยฟ้องต้องไม่เกิน ๒๐,๒๑๔.๙๘ บาท หากไม่ชำระให้ยึดที่ดิน น.ส.๓ ก. เลขที่ ๑๙๘๘ (ที่ถูกคือ ๑๙๙๘) ทรัพย์จำนองขายทอดตลาดชำระหนี้ ถ้าไม่พอชำระให้จำเลยทั้งสองชำระส่วนที่ยังขาดแก่โจทก์จนครบ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ตัดพยานจำเลยขอให้กลับ (ที่ถูกคือให้ยก) คำพิพากษาของศาลชั้นต้น และมีคำสั่งให้ดำเนินการสืบพยานจำเลยที่ยังเหลือให้เสร็จ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งตัดพยานจำเลยชอบแล้ว พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่าภายหลังจากสืบพยานจำเลยปากแรก คือตัวจำเลยที่ ๑ เสร็จ ศาลชั้นต้นได้สั่งให้ส่งประเด็นไปสืบพยานจำเลยที่เหลือ ถือนายถวิล ซึ่งจำเลยแถลงว่าจะติดใจสืบเป็นปากสุดท้ายที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา เมื่อถึงวันนัดสืบพยานประเด็นนัดแรกจำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่านายถวิลติดธุระ ศาลจังหวัดนครราชสีมาอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๓๑ ถึงวันนัดจำเลยแถลงว่านายถวิล พยานไม่มาศาลขอให้ส่งประเด็นคืนและขอให้นัดฟังประเด็นกลับ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๓๑ ถึงวันนัดจำเลยขอให้เลื่อนไปสืบนายถวิล พยานจำเลย และแถลงว่าจำเลยจะขอให้ศาลหมายเรียกนายถวิลมาเบิกความ โจทก์แถลงคัดค้านว่าจำเลยประวิงคดีขอให้ตัดพยานจำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีมีทุนทรัพย์มากสมควรให้โอกาสจำเลยอีกสักนัด จึงอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๓๑ แต่ได้กำชับว่าหากนัดหน้าจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะเหตุเกี่ยวกับนายถวิลอีกจะถือว่าจำเลยเจตนาประวิงคดี ถึงวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าทนายจำเลยติดธุระสำคัญมาศาลไม่ได้ โจทก์คัดค้านว่าจำเลยขอเลื่อนคดีมาหลายครั้งแล้ว ไม่ควรอนุญาตให้เลื่อนคดีอีก ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยประวิงคดีจึงสั่งตัดพยานจำเลย
พิเคราะห์แล้ว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๔๐ บัญญัติว่า “เมื่อศาลได้กำหนดนัดวันนั่งพิจารณาและแจ้งให้คู่ความทราบแล้ว ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเหตุจำเป็นที่จะต้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณาต่อไปโดยเสนอคำขอในวันนั้นหรือก่อนวันนั้น ศาลจะสั่งให้เลื่อนต่อไปก็ได้ แต่เมื่อศาลได้สั่งให้เลื่อนไปแล้วคู่ความฝ่ายนั้นจะขอเลื่อนการนั่งพิจารณาอีกไม่ได้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้….” เห็นว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวนี้มีเจตนารมณ์จะให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาโดยมิชักช้า การเลื่อนคดีก็อนุญาตให้เลื่อนได้เพียงครั้งเดียว คู่ความที่ได้รับอนุญาตให้เลื่อนคดีไปแล้วจะขอเลื่อนคดีอีกได้ก็ต่อเมื่อเข้าข้อยกเว้น คือมีเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ การขอเลื่อนคดีนัดที่เป็นปัญหานี้ก็มิใช่การขอเลื่อนคดีครั้งแรกของจำเลยเพราะเมื่อครั้งนัดสืบพยานประเด็นจำเลยที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา จำเลยเคยได้รับอนุญาตให้เลื่อนคดีมาแล้ว ด้วยเหตุนายถวิลพยานจำเลยติดธุระมาศาลไม่ได้ เมื่อจะขอเลื่อนคดีอีกจำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแถลงให้ศาลทราบโดยชัดแจ้งว่าจำเลยมีเหตุจำเป็นอย่างไร การขอเลื่อนคดีนัดที่เป็นปัญหาจำเลยก็เพียงแต่ยื่นคำร้องเข้ามาในวันนัดพิจารณาว่าทนายจำเลยมาศาลไม่ได้ เพราะติดธุระสำคัญไม่แสดงให้แจ้งชัดว่าติดธุระอะไร และสำคัญเร่งด่วนอย่างไร เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้ ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตามกฎหมายที่กล่าวแล้วข้างต้น นอกจากนี้ในการเลื่อนคดีก่อนนัดที่เป็นปัญหาจำเลยก็แถลงรับรองว่าจำเลยจะขอให้ศาลหมายเรียกนายถวิลมาเบิกความเป็นพยาน ทั้งศาลชั้นต้นก็กำชับแล้วว่า ถ้าจำเลยขอเลื่อนคดีเกี่ยวกับนายถวิลอีกจะถือว่าประวิงคดี แต่จำเลยก็หาได้ขอให้ศาลหมายเรียกนายถวิลมาเบิกความไม่ ในวันนัดนายถวิลก็ไม่มาศาล พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวแสดงว่าจำเลยประวิงคดี ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี และตัดพยานจำเลยชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share