คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5808/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โทษปรับเป็นโทษอย่างหนึ่งในจำพวกโทษทั้ง 5 ชนิดที่ลงแก่ผู้กระทำผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18(4)เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใดย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้วฉะนั้น หากจำเลยพ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 อีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องเพิ่มโทษตามวิธีการที่พระราชบัญญัติการพนันฯ มาตรา 14 ทวิ ที่แก้ไขแล้วบัญญัติไว้ในอนุมาตรา (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๐, ๑๒, ๑๔ ทวิ, ๑๕ ริบของกลางและสั่งจ่ายสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพ และจำเลยที่ ๓ รับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษจริงตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๔, ๕, ๖, ๑๐, ๑๒, ๑๕ จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงปรับจำเลยที่ ๑ เป็นเงิน ๘๔๐ บาท จำเลยนอกนั้นปรับคนละ ๓๕๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทน ริบของกลาง กับให้จำเลยใช้เงินสินบนคนละกึ่งค่าปรับ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยที่ ๓ ตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาโดยอธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ ๓ เคยต้องโทษฐานเล่นการพนันน้ำเต้าปูปลา ศาลพิพากษาปรับ ๓๐๐ บาท จำเลยพ้นโทษมายังไม่ครบกำหนด ๓ ปี กลับมากระทำผิดในคดีนี้อีกปัญหาที่ต้องวินิจฉัยมีว่า จะเพิ่มโทษจำเลยที่ ๓ ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๔ ทวิ(๒) ที่แก้ไขแล้วได้หรือไม่เห็นว่าพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๔ ทวิ ที่แก้ไขแล้วบัญญัติว่า “ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนดสามปี กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก (๑)… (๒) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกหรือปรับ ให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ” โทษปรับเป็นโทษอย่างหนึ่งในจำพวกโทษทั้ง ๕ ชนิด ที่ลงแก่ผู้กระทำผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘(๔) เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใดย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้วฉะนั้นหากจำเลยพ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบกำหนด ๓ ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันนี้อีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องเพิ่มโทษตามวิธีการที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๔ ทวิที่แก้ไขแล้ว บัญญัติไว้ในอนุมาตรา (๑) หรือ (๒) แล้วแต่กรณี
พิพากษาแก้เป็นว่า กำหนดโทษจำเลยที่ ๓ ตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๔ ทวิ(๒) ที่แก้ไขแล้วโดยให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับให้จำคุก ๒ เดือน ปรับ ๗๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้วคงจำคุก ๑ เดือน ปรับ ๓๕๐ บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share