แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
สัญญาเช่าซื้อที่ตกลงไว้ว่าถ้า รถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายในระหว่างสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเช่าซื้อจำนวนที่ยังขาดอยู่ให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ และในกรณีนี้ถือว่าสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดระงับลงนั้นเป็นความตกลงที่ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดในเหตุที่รถยนต์สูญหาย ซึ่งข้อตกลงเช่นนี้เป็นข้อสัญญารับใช้ค่าเสียหาย แม้จะเรียกว่าค่าเช่าซื้อ กรณีก็มิใช่การฟ้องเรียกเอาค่าเช่าซื้ออันมีอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 165(6)แต่เป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้ จึงต้องใช้อายุความ10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 164.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้เช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ ตกลงผ่อนชำระ 37 งวด หากผิดนัดสองงวดติดกันถือว่าสัญญาสิ้นสุดโดยไม่จำต้องบอกกล่าว และในกรณีรถยนต์สูญหายหรือเสียหายก็ให้สัญญาเป็นอันสิ้นสุดระงับลง จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ค่าเช่าซื้อที่ยังขาดอยู่ให้โจทก์จนครบโดยมีจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกันการเช่าซื้อ จำเลยที่ 1 ได้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์แล้วบางส่วนต่อมารถยนต์ที่เช่าซื้อได้หายไป จำเลยที่ 1 ยังคงค้างชำระค่าเช่าซื้ออยู่อีก 35,725 บาท โจทก์ทวงถามจำเลยเพิกเฉย จึงขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้การทำนองเดียวกัน ต่อสู้คดีหลายประการและว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ
ในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น โจทก์และจำเลยทั้งสามท้ากันขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นเรื่องคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่เพียงประเด็นเดียว หากคดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ จำเลยทั้งสามยอมแพ้คดี
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า กรณีเป็นเรื่องเรียกทรัพย์คืนมีอายุความ 10 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 45,995 บาท กับดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า กรณีเป็นเรื่องการเรียกเอาค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ มีอายุความ 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความแล้วพิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีโจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญาเช่าซื้อเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3 ข้อ 13 ซึ่งแม้จะระบุไว้ว่า ถ้ารถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายในระหว่างสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเช่าซื้อจำนวนที่ยังขาดอยู่ให้แก่บริษัทก็ตามแต่ในข้อสัญญาดังกล่าวได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่า ในกรณีนี้สัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดระงับลง ดังนั้นจึงไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระค่าเช่าซื้อต่อจากนั้นไปอีก ที่มีข้อสัญญาให้ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเช่าซื้อจำนวนที่ยังขาดนั้น ก็ไม่ทำให้สัญญานั้นไม่ระงับ เป็นแต่ความตกลงยอมรับผิดในเหตุที่รถยนต์สูญหาย ข้อตกลงเช่นนี้เป็นข้อสัญญารับใช้ค่าเสียหายนั่นเองแม้ในสัญญาจะเรียกว่าค่าเช่าซื้อก็ตาม กรณีจึงมิใช่การฟ้องเรียกเอาค่าเช่าซื้ออันมีกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6)และไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.