คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1711/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ในกรณีที่ทรัพย์มีการจำนองหลายรายนั้น เมื่อผู้รับจำนองรายแรกขอให้ศาลขายทอดตลาดโดยปลอด จำนอง ก็ต้องถือว่า เป็นการปลอด จำนองไปตลอดถึงรายหลัง ๆ ด้วย และผู้รับจำนองรายอื่นไม่มีสิทธิขอให้ศาลขายทอดตลาดโดยติดจำนองอันจะเป็นการขัดแย้งกับผู้รับจำนองรายแรกตามความมุ่งหมายที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา731,732 และ 744(5).

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ให้รับผิดตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี สัญญากู้เงิน สัญญาขายลดเช็ค และเช็คเป็นดงิน 11,915,554.92 บาท และให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดตามเช็ครวม 4 ฉบับ เป็นเงิน 2,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์บังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเครื่องจักรทอผ้าและทรัพย์สินในสำนักงานและในโรงงานเพื่อขายทอดตลาด ปรากฏว่าทรัพย์สินที่ยึดมีการจำนองอันดับสองซึ่งผู้ร้องสองคนเป็นผู้รับจำนองและผู้ร้องทั้งสองขอให้ขายทอดตลาดอย่างติดจำนอง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ขายทอดตลาดโดยติดจำนอง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ขายโดยปลอดจำนอง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ขายโดยปลอดจำนอง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาว่าทรัพย์ที่มีการจำนองสองรายเช่นนี้เมื่อโจทก์ผู้รับจำนองรายแรกบังคับคดีโดยปลอดการจำนองแล้วการจำนองรายที่สองหรือรายหลัง ๆ จะระงับไปเป็นการปลอดจำนองด้วยหรือไม่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่เกี่ยวกับจำนอง มาตรา731 บัญญัติว่า อันผู้รับจำนองคนหลังจะบังคับตามสิทธิของตนให้เสียหายแก่ผู้รับจำนองคนก่อนนั้น หาอาจทำได้ไม่ มาตรา 732บัญญัติว่า เมื่อขายทอดตลาอทรัพย์สินที่จำนองแล้ว ได้เงินสุทธิเท่าใดให้ใช้แก่ผู้รับจำนองเรียงตามลำดับ มาตรา 744(5) จำนองย่อมระงับสิ้นไปเมื่อขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำนองตามคำสั่งศาลอันเนื่องมาแต่การบังคับจำนองหรือถอนจำนอง ตามบทกฎหมายดังที่ยกมานี้ เห็นว่า เมื่อผู้รับจำนองรายแรกขอให้ศาลขายทอดตลาดอย่างปลอดจำนองแล้ว ผู้รับจำนองรายหลัง ๆ จะขอให้ติดจำนองของตนอยู่ก็เป็นการบังคับตามสิทธิของตนเป็นที่เสียหายแก่ผู้รับจำนองคนก่อน ซึ่งไม่อาจทำได้ตามมาตรา 731 ที่กล่าวแล้วและเมื่อขายทอดตลาดได้เงินแล้วจะต้องใช้แก่ผู้รัองจำนองเรียบลำดับตามมาตรา 732 หากผู้รับจำนองคนที่ 2 ไม่ยอมขายอย่างปลอดจำนองแต่ผู้รับจำนองคนที่ 3 ยอมขายอย่างปลอดจำนอง เงินที่ขายได้จะใช้เรียงลำดับที่จำนองตามมาตรา 732 ก็ไม่อาจกระทำด้ และเมื่อพิจารณาประกอบกับมาตรา 744(5) ที่ให้การจำนองระงับสิ้นไปเมื่อขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลแล้ว ทำให้เห็นชัดว่า เมื่อผู้รับจำนองรายแรกขอให้ขายทอดตลาดอย่างปลอดจำนองแล้วก็เป็นการปลอดจำนองไปตลอดถึงรายหลัง ๆ ด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ผู้ร้องทั้งสองไม่มีสิทธิขอให้ขายทอดตลาดโดยติดการจำนองแย้งกับโจทก์ผู้รับจำนองรายแรก จึงชอบแล้ว ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ”.

Share