แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นพนักงานดูเงินได้เพิ่มเติมตัวเลขและตัวหนังสือในฎีกาเบิกเงิน ย่อมเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือสำคัญในราชการตามมาตรา 225
พนักงานดูเงินของแผนกคลังจังหวัด ซึ่งมีหน้าที่รับเงินจากผู้รักษาเงินเพื่อนำมาจ่ายให้แก่ผู้เบิก เมื่อยักยอกเงินที่รับมาเพื่อจ่ายแก่ผู้เบิกไป จึงเป็นความผิดฐานยักยอกเงินอันอยู่ในหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา 131
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตปลอมหนังสือสำคัญในราชการ จดบัญชีเท็จและฐานยักยอกเงินของแผ่นดินโดยจำเลยเป็นพนักงานดูเงินแผนกคลังจังหวัดสุพรรณบุรี จำเลยได้เขียนเลขและจำนวนเงินเติมลงในฎีกาเบิกเงินของแผนกศึกษาธิการอำเภออู่ทอง แล้วยักยอกเอาเงินหลวงไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย 10,000 บาท ขอให้ส่งคืนของกลางและใช้เงินที่ยังขาดอยู่ จำเลยให้การปฏิเสธศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 319 และ 225(1) พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2477 (ฉบับที่ 5) มีกำหนด 7 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน 10,000 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยได้เพิ่มเติมตัวเลขและตัวหนังสือในฎีกาเบิกเงินเลขที่ 35 เป็นความผิดตามมาตรา 225 ส่วนการผิดฐานยักยอกเงิน 10,000 บาทนั้น พยานโจทก์มีว่าการจ่ายเงินประจำวันเมื่อถึงเวลาจ่ายเงินตามฎีกาขอเบิก ให้ผู้รักษาเงินมอบเงินตามจำนวนในฎีกาที่ตรวจสอบถูกต้องแล้วให้แก่พนักงานดูเงิน (จำเลย)เพื่อนำไปจ่ายให้แก่ผู้เบิกทุกครั้ง ที่มีการจ่ายเงิน ดังนี้เมื่อจำเลยยักยอกเงินที่รับมาเพื่อจ่ายให้แก่ผู้เบิกไป จึงเป็นความผิดฐานยักยอกเงินอันอยู่ในหน้าที่ มีความผิดตามมาตรา 131
พิพากษากลับ ให้รวมกระทงลงโทษ จำคุกจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 225 และมาตรา 131 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2477 (ฉบับที่ 5) มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลักษณะอาญา พ.ศ. 2484 มาตรา 3 มีกำหนด 10 ปี ของกลางคืนจำเลย แต่ให้จำเลยใช้เงิน 10,000 บาทแก่คลังจังหวัดสุพรรณบุรี