คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1607/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 102 กรณีจะหักกลบลบหนี้ในคดีล้มละลายได้นั้น หนี้นั้นต้องเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ เมื่อเช็คที่ผู้ร้องยกขึ้นอ้างเพื่อขอหักกลบลบหนี้กับหนี้ของตนนั้นลงวันที่สั่งจ่ายเงินในวันที่ 3 พฤษภาคม 2522 แต่จำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2523 ในวันที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เช็คนั้นจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 และเป็น หนี้ที่ จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามเช็คดังกล่าวเพราะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 94(1)เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ ผู้ร้องก็จะขอให้หักกลบลบหนี้ตามมาตรา 102 หาได้ไม่

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือทวงหนี้ให้ผู้ร้องชำระค่าแชร์จำนวน ๑๘,๐๐๐ บาท ผู้ร้องปฏิเสธหนี้และขอหักกลบลบหนี้ เพราะบริษัทกองทุนเงินแชร์จำกัด ลูกหนี้ (จำเลย) เป็นหนี้ผู้ร้องตามเช็คธนาคารนครหลวงไทย จำกัดเลขที่ ๐๒๗๗๕๐ จำนวนเงิน ๓๓,๘๖๐ บาท เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วมีคำสั่งว่าเช็คดังกล่าวน่าจะเป็นเช็คที่บริษัทฯ ลูกหนี้สั่งจ่ายให้นายมารุต อรรถไกรวันวที ผู้ร้องนำมาหักกลบลบหนี้ไม่ได้ จึงขอให้มีคำสั่งให้ผู้ร้องมีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้ให้จำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง ให้ผู้ร้องชำระเงินจำนวน ๑๘,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้เป็นยุติว่าผู้ร้องเป็นหนี้ค่าแชร์จำเลยอยู่รวม ๑๘,๐๐๐ บาท และบริษัทฯ จำเลยได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารนครหลวงไทย จำกัด เลขที่ ๐๒๗๗๕๐ ลงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๒๒ จำนวนเงิน ๓๓,๘๖๐ บาท โดยสั่งจ่ายให้แก่นายมารุต อรรถไกรวัลวที หรือผู้ถือ ปรากฏตามเช็คเอกสารหมาย ร.๑ ปัญหามีว่าผู้ร้องมีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องหักกลบลบหนี้ระหว่างหนี้ของผู้ร้องดังกล่าวกับหนี้ตามเช็คเอกสารหมาย ร.๑ ได้หรือไม่เพียงใด พิเคราะห์แล้ว ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช ๒๔๘๓ มาตรา ๑๐๒ กรณีที่จะหักกลบลบหนี้ในคดีล้มละลายได้นั้น หนี้นั้นต้องเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ สำหรับเช็คเอกสารหมาย ร.๑ ที่ผู้ร้องยกขึ้นอ้างเพื่อขอหักกลบลบหนี้ของตนนั้น เป็นเช็คลงวันที่สั่งจ่ายเงินในวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๒๒ แต่จำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๒๓ ดังนั้นวันที่เช็คเอกสารหมาย ร.๑ ถึงกำหนดจนถึงวันที่จำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจึงเกินกำหนด ๑ ปี เช่นนี้ในวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยนั้น หนี้ตามเช็คดังกล่าวจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๐๒ และเป็นหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามเช็คดังกล่าว เพราะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๙๔(๑) เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ ผู้ร้องก็จะขอให้หักกลบลบหนี้ตามมาตรา ๑๐๒ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ หาได้ไม่ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาข้ออื่นอีก ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาให้ยกคำร้องของผู้ร้องเสียนั้น ชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ผู้คัดค้านทำคำแก้ฎีกาเอง จึงไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้

Share