แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องถึงมูลหนี้ตามสัญญาซึ่งจำเลยมีต่อโจทก์ไว้โดยชัดแจ้ง และต่อมาจำเลยผิดสัญญา แม้โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยได้มาเจรจาประนีประนอมยอมความจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน มูลหนี้ตามสัญญาเดิมจึงยังไม่ระงับสิ้นไป โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องตามสัญญาได้ และไม่เป็นการวินิจฉัยคดีเกินคำขอในฟ้องของโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของที่นาซึ่งจำเลยขอขุดร่องน้ำผ่านและขุดพนังเหมืองกั้นน้ำเพื่อสร้างสระเก็บน้ำ เมื่องานของจำเลยแล้วเสร็จจำเลยจะถมร่องน้ำและพนังเหมืองให้มีสภาพเหมือนเดิม ครั้นงานของจำเลยแล้วเสร็จจำเลยผิดสัญญาไม่จัดทำ ทำให้โจทก์ทั้งสองเสียหาย ต่อมาจำเลยได้เจรจาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ทั้งสองโดยตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้เป็นงวด ๆ แต่จำเลยคงชำระเป็นบางงวดแล้วเพิกเฉยคงค้างชำระอีก 10,000 บาท ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยชำระเงิน 10,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยเป็นเงิน 47.91 บาท ให้แก่โจทก์ทั้งสองและดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน 10,000บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ขออนุญาตขุดร่องน้ำผ่านที่นาของโจทก์ทั้งสองจริงและเมื่อเสร็จงานของจำเลยแล้ว จำเลยได้ถมร่องน้ำทำที่นาของโจทก์ทั้งสองให้มีสภาพสมบูรณ์กว่าเดิม แต่โจทก์ไม่พอใจยังคงเรียกร้องอีก จำเลยไม่เคยทำหรือตั้งตัวแทนให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ทั้งสอง ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 10,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2521 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยตามมูลหนี้สัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดชำระเงินให้โจทก์ตามมูลหนี้อันเกิดจากการผิดสัญญาไม่ถมร่องน้ำพนังเหมือง จึงเป็นการวินิจฉัยเกินคำขอในฟ้องของโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายว่า จำเลยได้ขออนุญาตขุดร่องน้ำผ่านที่นาของโจทก์และขุดพนังเหมืองกั้นน้ำโดยให้สัญญาว่าเมื่อจำเลยสร้างสระเก็บน้ำในการก่อสร้างประปาให้แก่อำเภอแม่ริมเสร็จจำเลยจะถมร่องน้ำและพนังเหมืองให้มีสภาพเหมือนของเดิม แต่เมื่อจำเลยสร้างสระเก็บน้ำเสร็จ จำเลยกลับผิดสัญญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย อันเป็นการบรรยายฟ้องถึงมูลหนี้ตามสัญญามาโดยชัดแจ้ง ถึงแม้โจทก์จะกล่าวอ้างว่าโจทก์ได้มอบให้ทนายความมีหนังสือเรียกให้จำเลยมาเจรจาประนีประนอมยอมความก่อนที่จะยื่นฟ้อง และตกลงชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์โดยสัญญาจะผ่อนชำระเป็นงวด ๆ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันระงับข้อพิพาทอันเกิดจากสัญญาเดิม มูลหนี้ตามสัญญาเดิมก็ยังไม่ระงับสิ้นไป โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดแต่การที่จำเลยไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องตามสัญญาได้ หาเป็นการวินิจฉัยคดีเกินคำขอในฟ้องของโจทก์แต่อย่างใดไม่
พิพากษายืน