แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2496 มาตรา 10 ที่กำหนดว่า สิ่งของที่ใช้หรือได้มาในการกระทำผิด ศาลจะริบเสียก็ได้ ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเรื่องของกลางที่ให้ริบเป็นไม่ริบ ก็เป็นการใช้ดุลพินิจตามอำนาจที่ให้ไว้ตามกฎหมาย และเป็นการแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย โจทก์จึงฎีกาขอให้ริบของกลางไม่ได้
ย่อยาว
คดีได้ความตามฟ้องโจทก์และคำรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยบังอาจร่วมสมคบกันใช้เครื่องยนต์ฉุดระหัด ๑ เครื่อง ทำการวิดน้ำในลำคลองโบสถ์โพธิ์ อันเป็นที่สาธารณประโยชน์ เพื่อทำการประมงจับสัตว์น้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมเครื่องยนต์ ๑ เครื่อง ระหัด ๑ เครื่อง อันเป็นเครื่องมือที่จำเลยใช้กระทำผิด ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๑๘, ๖๒, ๖๙ พระราชบัญญัติการประมง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๔, ๗, ๑๑ ลดแล้วปรับ ๒๕๐ บาท ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ขอลดโทษ และขอไม่ให้ริบเครื่องยนต์ฉุดระหัดของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่ริบเครื่องยนต์ และระหัดของกลาง นอกนั้นให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ริบเครื่องยนต์ และระหัดของกลางด้วย อ้างว่าจำเลยกระทำผิดร้ายแรงถึงขนาด ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องของกลางในการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการประมงในกรณีเช่นนี้ ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ส. ๒๔๙๖ มาตรา ๑๐ กำหนดว่าสิ่งของที่ใช้หรือได้มาโดยการกระทำผิด ศาลจะริบเสียก็ได้ ซึ่งเป็นการให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจเรื่องของกลางว่าควรริบหรือไม่ตามควรแก่กรณี ฉะนั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ริบเครื่องยนต์และระหัด จึงเป็นการใช้ดุลพินิจตามอำนาจที่ให้ไว้โดยกฎหมาย และเป็นการแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อย โจทก์จึงฎีกาไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ ที่ศาลชั้นต้นรับเป็นฎีกาขึ้นมาหาถูกต้องไม่
พิพากษายกฎีกาโจทก์