คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3631/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยมีค่าตอบแทน โดยจำเลยต้องหาเงินมาให้โจทก์เพื่อใช้หนี้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์ จึงมิใช่เป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ในระหว่างที่โจทก์จำเลยอยู่กินร่วมกันฉันสามีภรรยาโจทก์ยกที่ดิน 1 แปลงให้จำเลยโดยเสน่หา ต่อมาจำเลยประพฤติเนรคุณแก่โจทก์ ไม่ช่วยเหลืออุปการะโจทก์ และหมิ่นประมาทโจทก์ ขอให้พิพากษาบังคับจำเลยทำนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวคืนให้โจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยมิได้จดทะเบียนสมรสกัน โจทก์เป็นหนี้บุคคลอื่นอยู่ 5,000 บาท ขอให้จำเลยชำระหนี้แทนแล้วจะโอนที่พิพาทให้แก่จำเลย จำเลยมอบเงินให้โจทก์ไป 5,000 บาทเพื่อชำระหนี้แล้วโจทก์ได้โอนที่พิพาทให้จำเลยตามข้อตกลง อันเป็นการให้โดยมีค่าตอบแทน มิใช่เป็นการยกให้โดยเสน่หา จำเลยมิได้ประพฤติเนรคุณแก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยเพื่อเป็นการตอบแทนในการที่จำเลยไปกู้เงินนางบัวคลี่มา 5,000 บาทให้โจทก์เพื่อใช้หนี้นางกุ้ง อันเป็นกรณีที่โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยมีค่าตอบแทน และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยมีค่าตอบแทน โดยจำเลยต้องหาเงินมาให้โจทก์5,000 บาทเพื่อใช้หนี้นางกุ้ง จึงมิใช่เป็นการให้โดยเสน่หา โจทก์ไม่มีสิทธิมาฟ้องถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณ

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share