แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ร้านสหกรณ์อยุธยาจำกัดสินใช้ได้จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2471 และเป็นนิติบุคคล โดยมีคณะกรรมการดำเนินการตามข้อบังคับของร้าน ระบุให้จำเลยในฐานะเป็นสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีอำนาจตรวจตราควบคุมประจำ และให้ความเห็นแนะนำเกี่ยวกับกิจการทั้งปวงของร้านสหกรณ์ฯ เพื่อให้ดำเนินไปด้วยดี ตลอดจนเรียกและเข้าประชุมใหญ่หรือประชุมคณะกรรมการดำเนินการด้วยเท่านั้น หาได้ระบุให้มีอำนาจดำเนินกิจการของร้านสหกรณ์ไม่ การที่โจทก์ฟ้องว่าขอให้ศาลพิพากษาว่าผลของการประชุมใหญ่ของร้านสหกรณ์ฯ เป็นโมฆะ ซึ่งเป็นกรณีกล่าวหาว่าร้านสหกรณ์ฯ ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ โจทก์ชอบที่จะต้องฟ้องร้านสหกรณ์เป็นจำเลยโดยตรง เพื่อจะได้มีโอกาสโต้แย้งข้อกล่าวหาของโจทก์ได้ การที่โจทก์ฟ้องนายภักดี อิ่มเอิบธรรม ซึ่งดำรงตำแหน่งสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาในฐานะเป็นผู้ควบคุมและให้ความเห็นแนะนำเกี่ยวกับกิจการทั้งปวงของร้านสหกรณ์ฯ โดยตรง หาได้ฟ้องร้านสหกรณ์ฯ ไม่ ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องมาก็ไม่มีทางที่จะให้เข้าใจได้ว่าเป็นการฟ้องร้านสหกรณ์ฯด้วย ฉะนั้น จะบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ให้มีผลไปถึงร้านสหกรณ์ฯไม่ได้
เพราะนายภักดีมิได้เป็นผู้ดำเนินกิจการของร้านสหกรณ์ฯแต่ประการใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นสมาชิกผู้ถือหุ้นร้านสหกรณ์อยุธยาจำกัดสินใช้จดทะเบียนแล้ว ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ฯ จำเลยมีเจตนาไม่สุจริตฝ่าฝืนข้อบังคับของร้านสหกรณ์ฯ โดยเรียกประชุมใหญ่ร้านสหกรณ์อยุธยาจำกัดสินใช้ขึ้น ตามหนังสือของจำเลยด่วนมาที่ ๓๕๑/๒๕๐๖ โดยจำเลยลงชื่อในหนังสือแจ้งประชุมใหญ่เสียเอง ซึ่งตามข้อบังคับของร้านสหกรณ์ฯอยุธยาฯวางไว้ว่า การประชุมใหญ่ต้องให้ประธานคณะกรรมการดำเนินการหรือรองประธานคณะกรรมการหรือเลขานุการลงชื่อในการเรียกประชุม และในการประชุมใหญ่ สมาชิกที่เข้าประชุมใหญ่ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ โดยจำเลยซึ่งเป็นผู้ควบคุมร้านสหกรณ์ฯเป็นผู้เห็นชอบด้วย ฯลฯ ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ผู้มีส่วนได้เสียในฐานะสมาชิก โจทก์เห็นว่าการประชุมใหญ่ของร้านสหกรณ์อยุธยาจำกัดสินใช้ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๖ ไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงเป็นโมฆะ ขอให้ศาลพิพากษาว่า ผลของการประชุมใหญ่ของร้านสหกรณ์อยุธยาจำกัดสินใช้ครั้งที่ ๒/๒๕๐๖ ลงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๖ เป็นโมฆะ ให้จำเลยแจ้งให้สมาชิกทราบว่าผลของการประชุมเป็นโมฆะ โดยทั่วกัน ฯลฯ
ต่อมาโจทก์ที่ ๑ ยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ ศาลอนุญาต
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การประชุมใหญ่เป็นไปโดยชอบและถูกต้อง โจทก์เป็นเพียงสมาชิกไม่ใช่กรรมการ หามีอำนาจฟ้องเกี่ยวกับการประชุมใหญ่ของร้านสหกรณ์ไม่ ฯลฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ร้านสหกรณ์อยุธยาจำกัดสินใช้ได้จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. ๒๔๗๑ และเป็นนิติบุคคล ตามข้อบังคับของร้านสหกรณ์ระบุให้จำเลยมีอำนาจตรวจตราควบคุมประจำและให้ความเห็นแนะนำเกี่ยวกับกิจการทั้งปวงของร้านสหกรณ์ฯ เพื่อให้ดำเนินไปด้วยดี ตลอดจนเรียกและเข้าประชุมใหญ่หรือประชุมคณะกรรมการดำเนินการด้วยเท่านั้น หาได้ระบุให้มีอำนาจดำเนินกิจการของร้านสหกรณ์ฯ ไม่ จึงมีปัญหาวินิจฉัยเบื้องต้นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าผลของการประชุมใหญ่ของร้านสหกรณ์อยุธยาจำกัดสินใช้ครั้งที่ ๒/๒๕๐๖ ลงวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๐๖ เป็นโมฆะ ซึ่งเป็นกรณีกล่าวหาว่าร้านสหกรณ์ฯไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับนั่นเอง ซึ่งโจทก์ชอบที่จะต้องฟ้องร้านสหกรณ์ เป็นจำเลยโดยตรงเพื่อจะได้มีโอกาสโต้แย้งข้อกล่าวหาของโจทก์ได้ ปรากฏว่าโจทก์ฟ้องนายภักดี อิ่มเอิบธรรม ซึ่งดำรงตำแหน่งสหกรณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในฐานเป็นผู้ตรวจควบคุมและให้ความเห็นแนะนำเกี่ยวกับกิจการทั้งปวงของร้านสหกรณ์ฯโดยตรง หาได้ฟ้องร้านสหกรณ์ฯไม่ ที่โจทก์บรรยายฟ้องมาก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นการฟ้องร้านสหกรณ์ฯ ด้วย ฉะนั้น
จะบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ให้มีผลผูกพันไปถึงร้านสหกรณ์ฯ ไม่ได้ เพราะนายภักดี อิ่มเอิบธรรม มิได้เป็นผู้ดำเนินการของร้านสหกรณ์ฯ แต่ประการใด
พิพากษายืน.