คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3621/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สิทธิในการดำเนินคดีทางศาลจะมีได้ก็แต่เฉพาะบุคคลเท่านั้นซึ่งคำว่าบุคคลหมายถึงบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล กองมรดกของผู้ตายหามีกฎหมายใดบัญญัติให้มีสภาพเป็นนิติบุคคลไม่ จึงไม่มีอำนาจดำเนินคดีร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้และจำนอง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ย แต่จำเลยไม่ชำระหนี้ โจทก์จึงขอให้บังคับคดี และนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นของนายง่วนฮงโดยใส่ชื่อจำเลยถือกรรมสิทธิ์แทน ต่อมานายง่วนฮงถึงแก่กรรมทรัพย์มรดกยังไม่ได้แบ่ง จำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งปัดบังทรัพย์มรดกโดยนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองแก่โจทก์ โจทก์รับจำนองโดยไม่สุจริตขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์ให้การและแก้ไขคำให้การว่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นของจำเลย โจทก์รับจำนองโดยสุจริต ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 55 สิทธิในการดำเนินคดีทางศาลจะมีได้ก็แต่เฉพาะบุคคลเท่านั้นซึ่งคำว่า บุคคลหมายถึงบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 65 นิติบุคคลจะมีขึ้นได้ก็แต่ด้วยอาศัยอำนาจแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น กองมรดกของผู้ตายหามีกฎหมายใดบัญญัติให้มีสภาพเป็นนิติบุคคลไม่ เช่นนี้ แม้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาทที่โจทก์นำยึดจะเป็นทรัพย์สินที่นายง่วนฮงให้จำเลยถือกรรมสิทธิ์แทนดั่งที่ผู้ร้องอ้างและฎีกา กองมรดกนายง่วนฮงผู้ร้องซึ่งไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ก็ไม่มีอำนาจดำเนินคดีร้องขอให้ปล่อยได้
พิพากษายืน

Share