คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3620/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อผู้กระทำผิดคนใดใช้อาวุธปืนยิงในการปล้นทรัพย์ก็ถือว่าผู้กระทำผิดอื่นที่ไม่มีอาวุธปืนหรือไม่ได้ยิงอาวุธปืนมีความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนยิงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา340วรรคสี่ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ทั้ง สอง ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289, 340 วรรคสี่ , 340 ตรี , 83, 91 พระราชบัญญัติ อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ , 55, 72, 72 ทวิ , 78 และ ริบของกลางที่ เหลือ
จำเลย ทั้ง สอง ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย ทั้ง สอง มี ความผิด ตาม ประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ , 340 ตรี , 371, 83 พระราชบัญญัติ อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง , 55, 72 วรรคหนึ่ง , 72 ทวิวรรคสอง , 78 วรรคหนึ่ง การกระทำ ของ จำเลย เป็น ความผิด หลายกรรมต่างกัน ให้ เรียง กระทง ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐาน ปล้นทรัพย์ โดย มี อาวุธปืน จำคุก จำเลย ที่ 1 มี กำหนด 24 ปีฐาน ปล้นทรัพย์ โดย ใช้ ปืน ยิง จำคุก จำเลย ที่ 2 มี กำหนด 16 ปีฐาน มี อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ให้ ลงโทษ ฐาน มี อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ที่นาย ทะเบียน ออก ใบอนุญาต ให้ ไม่ได้ ไว้ ใน ความครอบครอง ซึ่ง เป็น บทหนัก ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคน ละ 6 ปี และ ฐาน พา อาวุธปืน ให้ ลงโทษ ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืน ฯซึ่ง เป็น บทหนัก ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก คน ละ 1 ปีรวม จำคุก จำเลย ที่ 1 มี กำหนด 31 ปี จำคุก จำเลย ที่ 2 มี กำหนด 23 ปีคำเบิกความ ของ จำเลย ทั้ง สอง เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณา มีเหตุบรรเทา โทษ ลดโทษ ให้ หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คง จำคุก จำเลย ที่ 1 มี กำหนด 20 ปี 8 เดือน จำคุก จำเลย ที่ 2มี กำหนด 15 ปี 4 เดือน ริบของกลาง ที่ เหลือ ส่วน ข้อหา อื่น ให้ยก
จำเลย ทั้ง สอง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ เป็น ว่า จำเลย ทั้ง สอง ไม่มี ความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 โดย จำเลย ที่ 1 มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสี่ , 340 ตรี , 83 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่ง เทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง , 72 วรรคหนึ่ง ,72 วรรคหนึ่ง , 72 ทวิ วรรคสอง จำคุก จำเลย ที่ 1 ข้อหา มี อาวุธปืนไว้ ใน ครอบครอง โดย ไม่ได้ รับ อนุญาต มี กำหนด 2 ปี รวม จำคุก จำเลยที่ 1 มี กำหนด 27 ปี จำเลย ที่ 2 มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสี่ , 83 คำให้การ ใน ชั้นสอบสวน ของ จำเลย ทั้ง สองเป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณา มีเหตุ บรรเทา โทษ ลดโทษ จำเลย ทั้ง สอง คน ละหนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คง จำคุก จำเลย ที่ 1มี กำหนด 18 ปี จำคุก จำเลย ที่ 2 มี กำหนด 10 ปี 8 เดือน ข้อหา อื่นให้ยก นอกจาก ที่ แก้ ให้ เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ และ จำเลย ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ข้อเท็จจริง ฟังได้ ว่า ตาม วัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุ ตาม ฟ้อง จำเลย ทั้ง สอง กับ นาย เป้ย คุณตุ้ม ซึ่ง ถูก เจ้าพนักงาน ตำรวจ ยิง ถึงแก่ความตาย แล้ว ได้ ร่วมกัน ปล้นเอา น้ำมันเครื่อง สำหรับ รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 กระป๋อง ราคา 20 บาทของ นางสาว นวลละออ สีแสด ผู้เสียหาย ไป โดย จำเลย ที่ 1 มี อาวุธปืน พก ลูกซอง ขนาด .410 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืน ขนาด เดียว กันจำนวน 1 นัด ไว้ ใน ครอบครอง โดย ไม่ได้ รับ อนุญาต และ นาย เป้ย มี อาวุธปืน เล็ก กล แบบ เอ เค 47 ขนาด 7.62 ม.ม. จำนวน 1 กระบอกกระสุนปืน ขนาด เดียว กัน จำนวน 15 นัด ซึ่ง เป็น อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นาย ทะเบียน จะ ออก ใบอนุญาต ให้ ไม่ได้ ไว้ ในครอบครอง และ พกพา อาวุธปืน กับ เครื่องกระสุนปืน ดังกล่าว ติดตัว ไปใน การ ปล้นทรัพย์ และ ใช้ ยิง ใน การ ปล้นทรัพย์ ด้วย คดี มี ปัญหา ตาม ที่โจทก์ ฎีกา ว่า จำเลย ทั้ง สอง มี ความผิด ฐาน ร่วมกัน กับ นาย เป้ย มี อาวุธปืน เล็ก กล และ เครื่องกระสุนปืน ไว้ ใน ครอบครอง กับ พา อาวุธปืนและ เครื่องกระสุนปืน ดังกล่าว ไป ใน หมู่บ้าน และ ทางสาธารณะ โดย ไม่ได้รับ อนุญาต และ จำเลย ที่ 2 ร่วม กับ จำเลย ที่ 1 มี อาวุธปืน พก ลูกซองและ เครื่องกระสุนปืน ดังกล่าว ไว้ ใน ครอบครอง โดย ไม่รับ อนุญาตกับ พกพา อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ดังกล่าว ไป ใน หมู่บ้าน และทางสาธารณะ โดย ไม่ได้ รับ อนุญาต หรือไม่ เห็นว่า อาวุธปืน เล็ก กลและ เครื่องกระสุนปืน เป็น ของ นาย เป้ย กับ อาวุธปืน พก ลูกซอง และ เครื่องกระสุนปืน เป็น ของ จำเลย ที่ 1 โจทก์ นำสืบ ไม่ได้ ว่า จำเลยทั้ง สอง เป็น เจ้าของ อาวุธปืน เล็ก กล และ เครื่องกระสุนปืน ร่วมกัน กับนาย เป้ย และ จำเลย ที่ 2 เป็น เจ้าของ อาวุธปืน พก ลูกซอง และ เครื่องกระสุนปืน ร่วมกัน กับ จำเลย ที่ 1 ข้อเท็จจริง ฟังได้ แต่เพียง ว่า จำเลย ทั้ง สอง และ นาย เป้ย ร่วมกัน ไป ปล้นทรัพย์ โดย นาย เป้ย และ จำเลย ที่ 1 พกพา อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ดังกล่าว ติดตัว ไป ด้วย เท่านั้น ข้อเท็จจริง เพียง เท่านี้ ยัง ไม่ เพียงพอที่ จะ รับฟัง ได้ว่า จำเลย ทั้ง สอง ร่วม กับ นาย เป้ย มี อาวุธปืน เล็ก กล และ เครื่องกระสุนปืน และ จำเลย ที่ 2 ร่วม กับ จำเลย ที่ 1มี อาวุธปืน พก ลูกซอง เครื่องกระสุนปืน ไว้ ใน ครอบครอง โดย ไม่ได้รับ อนุญาต ร่วมกัน พกพา อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ดังกล่าวไป ใน หมู่บ้าน และ ทางสาธารณะ โดย ไม่ได้ รับ อนุญาต จำเลย ทั้ง สองจึง ไม่มี ความผิด ใน ข้อหา ดังกล่าว ตาม ที่ โจทก์ ฎีกา เมื่อ จำเลย ที่ 2ไม่มี ความผิด ใน ข้อหา ดังกล่าว แล้ว จำเลย ที่ 2 ก็ ไม่มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ฎีกา โจทก์ ฟังไม่ขึ้น ที่ จำเลยที่ 2 ฎีกา ว่า จำเลย ที่ 2 ได้ ร่วม กับพวก ปล้นทรัพย์ โดย จำเลย ที่ 2ไม่มี อาวุธปืน จำเลย ที่ 2 จึง ไม่มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสี่ นั้น เห็นว่า แม้ จำเลย ที่ 2 ไม่มี อาวุธปืนติดตัว ไป ใน การ ปล้นทรัพย์ แต่ ถ้า ใน การ ปล้นทรัพย์ ผู้กระทำผิดแม้ คนหนึ่ง คนใด ใช้ อาวุธปืน ยิง ใน การ ปล้นทรัพย์ ก็ ถือได้ว่าผู้กระทำผิด อื่น ที่ ไม่มี อาวุธปืน หรือไม่ ได้ ยิง อาวุธปืน มี ความผิดฐาน ปล้นทรัพย์ โดย ใช้ อาวุธปืน ยิง ด้วย เมื่อ ข้อเท็จจริง ใน คดี นี้ฟังได้ ว่า ได้ มี การ ยิง อาวุธปืน ใน การ ปล้นทรัพย์ จำเลย ที่ 2 ซึ่งร่วม กับพวก ปล้นทรัพย์ จึง มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340วรรคสี่ ฎีกา ข้อ นี้ ของ จำเลย ที่ 2 ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share