คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3615/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดต่อพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิงพ.ศ.2521มาตรา25 ตรี มีข้อสันนิษฐานไว้ในวรรคสองและวรรคสี่ความว่าถ้าการกระทำความผิด ต่อพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิงเกิดขึ้นภายในสถานที่ทำการหรือ สถานที่จำหน่ายของผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา6 ทวิ ให้สันนิษฐานไว้ก่อน ว่าผู้ค้าน้ำมันดังกล่าวเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยเว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า ตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วที่จะป้องกันมิให้มี การกระทำความผิดเกิดขึ้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามีผู้กระทำความผิด ถูกจับขณะกำลังปลอมปนน้ำมันโดยถ่ายน้ำมันก๊าดลงในถังเก็บ น้ำมันโซล่าใต้ดินของจำเลยที่ 1 ในบริเวณปั๊มน้ำมันของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ไม่มีพยานมาสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมาย ดังกล่าวได้จำเลยที่1ในฐานะผู้ค้าน้ำมันและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็น หุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่1จึงต้องรับผิดตามฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการและมีวัตถุประสงค์จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จำเลยทั้งสองกับนายอุดม คำชูจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 240/2525 ของศาลชั้นต้น ร่วมกันปลอมน้ำมันดีเซล (โซล่า) โดยเติมน้ำมันก๊าดผสมในน้ำมันดีเซล ทำให้น้ำมันดีเซลมีคุณภาพต่ำกว่ากำหนด และจำเลยทั้งสองมีน้ำมันดีเซลดังกล่าวไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายให้บุคคลอื่น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2521 มาตรา 4, 6 ทวิ, 13, 25 ตรี ฯลฯ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2521 มาตรา 25 ตรี วรรคสอง ปรับจำเลยที่ 1 และจำคุกจำเลยที่ 2
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุนายอุดม คำชูซึ่งศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว ปลอมปนน้ำมันโซล่าเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนจำนวน 8,400 ลิตร โดยใช้น้ำมันก๊าด 300 ลิตร ผสมลงในถังเก็บน้ำมันใต้ดินของจำเลยที่ 1 นายอุดม คำชู ถูกจับได้ขณะกำลังถ่ายน้ำมันก๊าดเพื่อปลอมปนอยู่ในบริเวณปั๊มน้ำมันของจำเลยที่ 1 มีปัญหาว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยหรือไม่ เห็นว่าความผิดต่อพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2521 มาตรา 25 ตรี เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522มาตรา 9 มีข้อสันนิษฐานไว้ในวรรคสองและวรรคสี่ความว่า ผู้ค้ำน้ำมันตามมาตรา 6 ทวิ เมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นภายในสถานที่ทำการหรือสถานที่จำหน่ายของตน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว ที่จะป้องกันมิให้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และจำเลยทั้งสองไม่มีพยานมาสืบหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายดังกล่าวได้ จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ค้าน้ำมันและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดตามฟ้อง แต่เห็นว่าไม่สมควรลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ไปเลยทีเดียว
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยที่ 2 ไว้มีกำหนด 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share