คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3613/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้สนับสนุนในความผิดดังกล่าว คดีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในความผิดฐานเป็นตัวการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๘๓ และริบของกลาง
จำเลยทั้งห้าใหการปฏิเสธ
นางเหี้ยง นุ่นนาม ภริยาผู้ตายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔) ,๘๓ ลงโทษประหารชีวิต จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔), ๘๖ ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ตลอดชีวิต สำหรับจำเลยที่ ๔ ที่ ๕ ให้ยกฟ้อง ริบของกลาง
โจทก์ โจทก์ร่วม จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ ๕ ถึงแก่ความตายศาลอุทธรณ์จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ ๕ จากสารบบความ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๔) ประกอบด้วย มาตรา ๘๖ ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ ๓ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ประกอบด้วยมาตรา ๕๓ คงให้จำคุกจำเลยที่ ๓ มีกำหนด ๓๓ ปี ๔ เดือน รถจักรยานยนต์ของกลางไม่ริบ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ โจทก์ร่วม จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ในส่วนฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมที่ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นตัวการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้นเห็นว่าเมื่อศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังน้นความผิดฐานเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๐ ฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมดังกล่าวศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยส่วนข้อเท็จจริงในคดีรับฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ก่อให้จำเลยที่ ๒ กับพวกฆ่าผู้ตายด้วยการใช้จริง เมื่อจำเลยที่ ๒ กับพวกได้ฆ่าผู้ตายถึงแก่ความตาม จำเลยที่ ๑ จึงต้องรับโทษเสมือนตัวการ แต่ปรากฏว่า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นตัวการร่วมกระทำผิดกับจำเลยอื่น และความผิดของจำเลยที่ ๑ ฐานเป็นตัวการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนได้ยุติในชั้นศาลอุทธรณ์แล้ว จึงคงลงโทษจำเลยที่ ๑ ได้เพียงเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ เท่านั้น สำหรับคดีของจำเลยที่ ๓ นั้น พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังว่าจำเลยที่ ๓ กระทำผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในคดีนี้ ส่วนที่โจทก์ร่วมฎีกาขอไม่ให้ลดโทษให้จำเลยที่ ๒ นั้น เห็นว่าศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจลดโทษให้จำเลยที่ ๒ ชอบแล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๓ เสียด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share