คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3612/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

หนังสือบริคณห์สนธิของโจทก์ระบุว่าประกอบกิจการค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ และเครื่องมือช่างทุกประเภท เครื่องมือทาสีเครื่องตกแต่งอาคารทุกชนิด ดังนี้ การค้าหมายถึงการดำเนินการด้วยวิธีการต่าง ๆ โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้หาได้จำกัดเฉพาะการซื้อขายเท่านั้นไม่ การที่โจทก์ให้เช่าแผ่นเหล็กกันดินอันเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้างจึงเป็นการหารายได้วิธีหนึ่งซึ่งอยู่ในวัตถุประสงค์ของโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่า ค่าเสียหายและค่าขนย้ายทรัพย์สินหาใช่ฟ้องเรียกเงินกู้ไม่ ดอกเบี้ยตามสัญญาจึงเป็นเบี้ยปรับอย่างหนึ่ง ไม่ตกเป็นโมฆะ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้เช่าแผ่นเหล็กกันดินรวมจำนวน 90 แผ่นไปจากโจทก์กำหนดเวลาเช่า 5 เดือน ถ้าจำเลยประสงค์จะเช่าต่อโจทก์ตกลงยินยอมให้จำเลยเช่าต่อไปจนกว่าจะใช้งานเสร็จ ถ้ามีแผ่นเหล็กเสียหายไม่สามารถแก้ไขให้กลับคืนสภาพเดิมได้จำเลยยอมใช้ค่าเสียหายให้ การส่งมอบแผ่นเหล็กให้จำเลย ถ้าโจทก์เป็นผู้ส่งจำเลยตกลงชำระค่าส่งและค่ารถยกแผ่นเหล็ก ถ้าจำเลยผิดนัดไม่ชำระเงินตามข้อตกลง จำเลยยินยอมเสียดอกเบี้ยให้โจทก์ในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี และโจทก์ได้รับแผ่นเหล็กที่จำเลยเช่าไปคืนมาปรากฏว่ามีแผ่นเหล็กเสียหายไม่สามารถแก้ไขให้กลับคืนสภาพเดิมได้และในระหว่างที่จำเลยเช่าแผ่นเหล็กไปจำเลยยังค้างชำระค่าเช่าโจทก์และค้างค่าตอบแทนในการขนย้ายแผ่นเหล็กเป็นเงิน 663,512 บาทโจทก์ทวงถาม จำเลยเพิกเฉยทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ตามสัญญานับแต่วันที่โจทก์ได้รับแผ่นเหล็กคืนจากจำเลยถึงวันฟ้องเป็นเงินดอกเบี้ย 151,579.31 บาทจำเลยเป็นหนี้โจทก์ทั้งสิ้น 815,091.31 บาท ขอให้จำเลยชำระเงิน815,091.31 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 18 ต่อปี ในต้นเงิน663,512 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการค้าประเภทให้เช่าสังหาริมทรัพย์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจให้เช่าอันเป็นกิจการนอกวัตถุประสงค์ของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะแสวงประโยชน์อันเกิดจากสัญญาเช่านั้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 406,432 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 18 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 5 ธันวาคม2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ คำฟ้องของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ในปัญหาที่ว่าโจทก์มีวัตถุประสงค์ในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์หรือไม่ ตามหนังสือบริคณห์สนธิของโจทก์เอกสารหมาย จ.1 ข้อ 14 ระบุว่าประกอบกิจการค้าวัสดุก่อสร้างอุปกรณ์และเครื่องมือช่างทุกประเภท เครื่องมือทาสี เครื่องตกแต่งอาคารทุกชนิด เห็นว่า วัตถุประสงค์ของโจทก์ดังกล่าวเป็นการประกอบการค้าเพื่อหารายได้จากวัสดุก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้างทั่วไป และการค้าหมายถึง การดำเนินการด้วยวิธีการต่าง ๆโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ หาได้จำกัดเฉพาะการซื้อหรือขายเท่านั้นไม่การที่โจทก์ให้เช่าแผ่นเหล็กกันดินอันเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้างจึงเป็นการหารายได้วิธีหนึ่งซึ่งอยู่ในวัตถุประสงค์ของโจทก์ดังกล่าว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยได้ ในปัญหาว่าโจทก์เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องเรียกค่าเช่า ค่าเสียหายและค่าขนย้ายทรัพย์สินหาใช่ฟ้องเรียกเงินกู้ ดอกเบี้ยตามสัญญาจึงเป็นเบี้ยปรับอย่างหนึ่ง ซึ่งโจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกได้ ไม่ตกเป็นโมฆะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share