คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาเรื่องวิธีเพิ่มโทษ เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นว่าในชั้นอุทธรณ์ จำเลยก็ยกขึ้นว่าในชั้นฎีกาได้
เมื่อศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้ว ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยอีกไม่ได้ ฉะนั้นแม้คดีจะมีส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลดศาลจะไม่เพิ่มไม่ลดหาได้ไม่ เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 ให้เพิ่มโทษก่อนแล้วจึงลดจากผลที่ได้เพิ่มแล้วนั้น แต่กรณีนี้การเพิ่มโทษตามมาตรา 92 ไม่อาจทำได้ ศาลจึงต้องลดโทษให้แก่จำเลยสถานเดียว
โทษจำคุกตลอดชีวิตเมื่อรวมกับโทษจำคุกกระทงอื่นแล้วคงให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
การคำนวณลดโทษไม่ถูกต้อง เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะไม่อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดหลายฐานจำเลยที่ ๑ เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกในความผิดฐานรับของโจรมาแล้ว และได้กระทำความผิดในคดีก่อนในขณะที่มีอายุเกินกว่าสิบเจ็ดปี จำเลยที่ ๑ พ้นโทษในคดีดังกล่าวแล้ว กลับมากระทำความผิดในคดีนี้ ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ซ้ำในอนุมาตราเดียวกันอีกภายในเวลาสามปีนับแต่วันพ้นโทษ และจำเลยที่ ๑ เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่ ๑ ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๔๕๖/๒๕๒๗ ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสอง เพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ ตามกฎหมาย และนับโทษจำเลยที่ ๑ ต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๔๕๖/๒๕๒๗ ของศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ จำเลยที่ ๑ รับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดรวม ๘ กระทง ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙ วางโทษประหารชีวิต ฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ จำคุกตลอดชีวิต ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่น จำคุกตลอดชีวิต ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมายจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ฐานพาอาวุธปืนติดตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำคุก ๑ ปี ฐานปล้นทรัพย์ จำคุก ๒๐ ปี ความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๙ จำคุก ๑ ปี ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๑๐ จำคุก ๖ เดือน จำเลยที่ ๑ เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ซึ่งจะต้องเพิ่มโทษหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒ และมาตรา ๙๓ จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพตั้งแต่ชั้นจับกุมจนถึงชั้นพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ลดโทษให้หนึ่งในสาม แต่ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลด จึงไม่เพิ่มไม่ลดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๔ เนื่องจากโทษของจำเลยที่ ๑ ทั้ง ๘ กระทง มีทั้งโทษจำคุกมีกำหนดเวลา จำคุกตลอดชีวิต และประหารชีวิต จึงให้บังคับเฉพาะโทษประหารชีวิต ให้งดบังคับคดีสำหรับโทษจำคุก ไม่นับโทษจำเลยที่ ๑ ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๔๕๖/๒๕๒๗ ของศาลชั้นต้นส่วนจำเลยที่ ๒ มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ฐานพาอาวุธปืนติดตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมายจำคุก ๑ ปี ฐานปล้นทรัพย์จำคุก ๒๐ ปี รวมโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๒๒ ปี ๖ เดือน จำเลยที่ ๒ ให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๑๖ ปี
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ว่า คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่มาก ศาลชั้นต้นลงโทษให้ประหารชีวิตนั้นหนักเกินไป ขอให้ลดโทษให้จำเลย และที่ศาลชั้นต้นเพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๓ นั้นไม่ถูกต้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้แก่จำเลยและเมื่อศาลลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้วเพิ่มโทษอีกไม่ได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาขอให้ลดโทษนั้น ปรากฏว่าศาลได้ใช้ดุลพินิจลดโทษให้จำเลยในกรณีมีเหตุบรรเทาโทษ เพราะคำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ หนึ่งในสามทุกกระทงความผิดแล้ว คดีคงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยเพียงว่า เมื่อศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิตแล้ว เพิ่มโทษอีกได้หรือไม่ ข้อนี้แม้จำเลยมิได้ยกขึ้นว่าในชั้นอุทธรณ์ แต่ปัญหาเรื่องวิธีเพิ่มโทษเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยจำเลยย่อมยกขึ้นว่าในชั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๕ ประกอบมาตรา ๒๒๕ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๔ บัญญัติว่า ในการคำนวณการเพิ่มโทษหรือลดโทษที่จะลงให้ศาลตั้งกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยเสียก่อนแล้วจึงเพิ่มหรือลด ถ้ามีทั้งการเพิ่มและการลดโทษที่จะลงให้เพิ่มก่อนแล้วจึงลดจากผลที่เพิ่มแล้วนั้น ดังนั้น เมื่อศาลพิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตจำเลยที่ ๑ แล้ว แม้โจทก์มีคำขอให้เพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒ ศาลก็เพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ อีกมิได้ จึงคงต้องลดโทษให้จำเลยที่ ๑ สถานเดียว ที่ศาลล่างทั้งสองเห็นว่าส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลดและไม่เพิ่มไม่ลดโทษของจำเลยที่ ๑ ในกรณีนี้จึงเป็นการไม่ชอบ สมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
อนึ่ง คดีสำหรับจำเลยที่ ๒ ปรากฏว่าศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๒ รวมทุกกระทงจำคุก ๒๒ ปี ๖ เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้วคงจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด๑๖ ปีนั้นคำนวณลดโทษให้ไม่ถูกต้อง ที่ถูกเมื่อคำนวณลดโทษให้จำเลยที่ ๒ ตามอัตราส่วนดังกล่าวแล้วคงต้องจำคุกจำเลยที่ ๒ เพียง ๑๕ ปี แม้จำเลยที่ ๒ จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ แต่การคำนวณลดโทษไม่ถูกต้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดโทษจำเลยที่ ๑ ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่น หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ประกอบมาตรา ๕๒ (๑) คงจำคุกตลอดชีวิต เมื่อรวมโทษความผิดทุกกระทงแล้วคงให้จำคุกจำเลยที่ ๑ ตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ (๓) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำเลยที่ ๑ ต่อนั้น ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ เป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๔๕๖/๒๕๒๗ ของศาลชั้นต้น จึงไม่นับโทษต่อให้ กับให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๑๕ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share