คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3607/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ศาลฟังคำให้การชั้นสอบสวนประกอบการพิจารณาของศาลประจักษ์พยานโจทก์ให้การชั้นสอบสวนสอดคล้องกันเมื่อพิจารณาประกอบคำเบิกความของพยานโจทก์อีกปากแล้วมีเหตุผลให้เชื่อว่าประจักษ์พยานดังกล่าวเห็นเหตุการณ์ดังที่ให้การไว้จริงการที่ประจักษ์พยานนี้มาเบิกความในชั้นศาลเป็นการบ่ายเบี่ยงเพื่อช่วยเหลือจำเลยให้พ้นผิดคำให้การชั้นสอบสวนเชื่อได้ว่าเป็นความจริงยิ่งกว่าคำเบิกความในชั้นพิจารณา

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,83 และ ให้ริบ ปลอก มีด กับ คืน รองเท้า แตะ ของกลาง แก่ เจ้าของ
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 15 ปี ริบ ปลอก มีด ของกลาง และ ให้ คืน รองเท้า แตะของกลาง แก่ เจ้าของ
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “พิเคราะห์ แล้ว ข้อเท็จจริง รับฟัง ได้ใน เบื้องต้น ว่า ตาม วัน เวลา และ สถานที่เกิดเหตุ ใน ฟ้อง นาย ชำนาญ อาจไพริน ผู้ตาย ถูก คนร้าย ใช้ มีดปลายแหลม แทง ที่ บริเวณ กลาง หลัง มี บาดแผล 2 แผล แผล แรก กว้าง 1 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว ลึก 3 นิ้ว แผลที่ สอง กว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 1 นิ้ว ลึก 1 นิ้ว และ แทง ที่ ต้นขา ขวามี บาดแผล กว้าง 2 นิ้ว ลึก 2 นิ้ว เป็นเหตุ ให้ ผู้ตาย ถึงแก่ความตายมี ปัญหา ที่ ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ จำเลย ว่า พยานโจทก์ รับฟัง ลงโทษจำเลย ได้ หรือไม่ จำเลย ฎีกา ว่า ศาล จะ ฟัง คำให้การ ชั้นสอบสวน ของนาย ชำนาญ นายสมชวนและนายสุวิทย์ ซึ่ง เป็น พยานบอกเล่า มา รับฟัง ลงโทษ จำเลย ไม่ได้ นั้น เห็นว่า คำให้การ ชั้นสอบสวน ของ ประจักษ์พยานดังกล่าว ตาม เอกสาร หมาย จ. 2 ถึง จ. 4 พยาน ให้การ สอดคล้อง กัน ว่าก่อน เกิดเหตุ ประมาณ 10 นาที จำเลย และ ผู้ตาย ได้ ชวน กัน ออก ไป จากโต๊ะ ที่ ดื่ม สุรา ไป คุย กัน ที่ กอไผ่ ที่เกิดเหตุ ต่อมา ได้ยิน เสียงผู้ตาย ร้อง และ เห็น จำเลย ถือ มีด วิ่ง ออก มาจาก บริเวณ ที่เกิดเหตุไป ที่ ถนน แล้ว หลบหนี ไป โดย ใน ขณะ เกิดเหตุ นาย ชำนาญ ได้ ตะโกน ต่อว่า จำเลย ด้วย ว่า จำเลย ทำ ผู้ตาย ทำไม ซึ่ง เมื่อ พิจารณา ประกอบ คำเบิกความของ นาง อารีย์ เรืองรัตน์ ที่ เบิกความ ว่า หน้า บ้าน ของ นาง อารีย์ มี หลอด ไฟฟ้า ขนาด 40 แรง เทียน เปิด ให้ แสง สว่าง ไว้ และ คำเบิกความนาย ชำนาญและนายสมชวน ที่ เบิกความ ว่า แสง ไฟ ส่องสว่าง ไป ถึง กอไผ่ ที่เกิดเหตุ แล้ว มีเหตุ ผล ให้ เชื่อ ได้ว่า ประจักษ์พยาน โจทก์ ทุกคนดังกล่าว ได้ เห็น เหตุการณ์ ดัง ที่ ให้การ ไว้ จริง อีก ทั้ง พยาน ทุกคนต่าง ให้การ ใน ชั้นสอบสวน หลัง เกิดเหตุ เพียง 2 วัน เท่านั้น ยัง ไม่มีเวลา คิด ไตร่ตรอง เพื่อ ช่วยเหลือ หรือ ปรักปรำ จำเลย รวมทั้ง ไม่มีเหตุจูงใจ หรือ ถูก บังคับ ขู่เข็ญ แต่อย่างใด และ คำให้การ ของประจักษ์พยาน ทุกคน ดังกล่าว ก็ สอดคล้อง เป็น ไป ตาม ขั้นตอน ยาก ที่พนักงานสอบสวน จะ เสกสรร ปั้น แต่ง ขึ้น มา เอง ตาม ที่ จำเลย ฎีกา ได้ ที่จำเลย ฎีกา ว่า จำเลย ลงลายมือชื่อ ใน คำให้การ ชั้นสอบสวน โดย ไม่มีข้อความ พนักงานสอบสวน เป็น ผู้ เรียบเรียง ข้อความ ขึ้น เอง นั้น ในคำให้การ ชั้นสอบสวน ของ จำเลย ระบุ เหตุ ทะเลาะวิวาท ว่า ผู้ตาย หา เหตุทะเลาะวิวาท กับ จำเลย ก่อน และ ระบุ ว่า ผู้ตาย เป็น ผู้ ชัก มีด แทง จำเลยก่อน โดย จำเลย ไม่ได้ พก อาวุธ มีด แต่อย่างใด ถ้า พนักงานสอบสวนเรียบเรียง คำให้การ ของ จำเลย เพื่อ ปรักปรำ จำเลย ก็ น่า จะ ระบุ ว่าจำเลย เป็น คน แทง ผู้ตาย การ ที่ คำให้การ ระบุ ไว้ เช่นนั้น น่าเชื่อ ว่าพนักงานสอบสวน บันทึก คำให้การ ตาม ที่ จำเลย ให้การ จริง และ ไม่มี กฎหมายบท ใด ห้าม มิให้ ศาล รับฟัง คำให้การ ชั้นสอบสวน เป็น ข้อ ประกอบการ พิจารณาของ ศาล การ ที่ ประจักษ์พยาน โจทก์ มา เบิกความ ใน ชั้นพิจารณา ของ ศาลว่า ไม่เห็น จำเลย ถือ มีด วิ่ง ออก มาจาก บริเวณ ที่เกิดเหตุ เป็น การเบิกความ บ่ายเบี่ยง ไป อย่าง ขัด ต่อ เหตุผล เพื่อ ช่วยเหลือ จำเลย ให้พ้น ผิด คำให้การ ชั้นสอบสวน ของ ประจักษ์พยาน โจทก์ เชื่อ ได้ว่า เป็นความจริง ยิ่งกว่า คำเบิกความ ใน ชั้นพิจารณา ของ ศาล เมื่อ รับฟัง ประกอบคำเบิกความ ของ นาง อารีย์ ที่ เบิกความ เกี่ยวกับ แสง สว่าง ใน ที่ เกิดเหตุ และ ถ้อยคำ ที่ พยาน ได้ยิน นาย ชำนาญ พูด ใน ขณะ เกิดเหตุ ใน เชิง ต่อว่า จำเลย ว่า ทำไม ทำ อย่าง นั้น แล้ว เห็นว่า พยานหลักฐาน โจทก์ ประกอบด้วย เหตุผล มั่นคง มี น้ำหนัก รับฟัง ลงโทษ จำเลย ได้ ศาลอุทธรณ์ ภาค 3พิพากษา ชอบแล้ว ฎีกา ของ จำเลย ฟังไม่ขึ้น ”
พิพากษายืน

Share