แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้รับมฤดกยอมให้ผู้จัดการมฤดกเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่ดินมฤดกโดยยอมรับเอาเงินจำนวนหนึ่งจากผู้จัดการมฤดก ต้องถือว่าตนได้สละสิทธิในทรัพย์มฤดกที่จะได้รับนั้นแล้ว
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์กับ ฉ.แล พ.จำเลยที่ ๑-๒ เป็นบุตรนายพ่วง นางพัน เมื่อพ.ศ.๒๔๗๒ นายพ่วงวายชนม์ ศาลจึงตั้งนางพันเป็นผู้จัดการมฤดก ที่รายพิพาทเป็นของนายพ่วงแลนางพัน ๆ จึงได้ถอนชื่อนายพ่วงออกจากโฉนดแลใส่ชื่อนางพันในโฉนดแต่ผู้เดียว แล้วนางพันเอาที่รายนี้ไปจำนองไว้กับจำเลยที่ ๔ เป็นเงิน๘๐๐๐ บาท ภายหลังนางพันได้ทำใบมอบฉันทะให้จำเลยที่ ๓ ไปโอนกรรมสิทธิที่รายนี้ให้จำเลยที่ ๑-๒ แลในวันเดียวกันนั้นเองจำเลยที่ ๑-๒ ก็เอาไปจำนองไว้กับจำเลยที่ ๔ อีกเท่ากับที่จำนองไว้เดิม ต่อมาได้ ๑๐ วัน นางพันก็ถึงแก่กรรม โจทก์จึงฟ้องหาว่าจำเลยกับพวกสมคบกันทำใบมอบฉันทะปลอมชื่อนางพัน เพื่อไม่ให้โจทก์ได้รับมฤดก จึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนนิติกรรมการโอนแลเพิกถอนการจำนองฉะบับใหม่ แลกล่าวว่าถึงแม้นางพันจะได้มอบฉันทะจริง นางพันก็ไม่มีอำนาจจะโอนทรัพย์ในกองมฤดกให้แก่ผู้ใดได้ เพราะเป็นแต่เพียงผู้จัดการมฤดกเท่านั้น
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นางพันได้ทำใบมอบฉันทะให้จำเลยจริง แลโจทก์กับผู้รับมฤดกคนอื่นๆ ได้ยินยอมให้นางพันลงชื่อในโฉนดเป็นเจ้าของที่ดินแต่ผู้เดียว โดยนางพันได้แบ่งส่วนมฤดกของโจทก์ให้แก่โจทก์ไปแล้ว พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาอย่างคนอนาถาว่า(๑)ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีนอกประเด็น โดยโจทก์ฟ้องขอให้ทำลายนิติกรรมเท่านั้น ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยเลยไปถึงส่วนมฤดก (๒) ผู้จัดการมฤดกจะมีอำนาจแบ่งมฤดกตามชอบใจหรือไม่
ปรากฎตามคำสั่งชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ฎีกาอย่างคนอนาถาได้ว่า กรณีจะเป็นอย่างไรก็ตาม ศาลนี้ขอรับรองว่ามีเหตุสมควรจะฎีกาได้ตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.๒๔๘ วรรค๑
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่งมาตรา ๒๔๘ วรรค ๑ ไม่ปรากฎว่าผู้พิพากษาที่ลงนามในคำสั่งได้นั่งพิจารณาคดีเรื่องนี้ จึงไม่เป็นการรับรองฎีกาตามกฎหมาย โจทก์จึงฎีกาได้แต่ในปัญหาข้อกฎหมาย
ในข้อที่ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีนอกประเด็นนั้น เห็นว่าแม้นางพันเป็นเพียงผู้จัดการมฤดกไม่มีอำนาจแบ่งทรัพย์ตามชอบใจก็ดี หากผู้มีส่วนยินยอมให้กระทำแล้วก็ไม่เป็นการผิดหน้าที่อย่างไร เหตุนี้ศาลอุทธรณ์จึงจำต้องวินิจฉัยการกระทำของโจทก์ตามพฤตติการณ์ต่าง ๆอันแสดงว่าโจทก์ได้ยินยอมโจทก์จะยกเอาเหตุบางประการอ้างว่าเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นหาได้ไม่ ส่วนที่โจทก์อ้างว่านางพันรับรองจะให้เงินแล้วยังหาได้ให้ครบถ้วนตามที่รับรองไม่ เป็นการประพฤติผิดหน้าที่ผู้จัดการมฤดกนั้นเห็นว่า โจทก์ยอมให้จำหน่ายทรัพย์แลยอมรับเอาผลเป็นส่วนแบ่งแล้ว ก็เป็นการสละทรัพย์นั้น ๆ เมื่อนางพันใช้เงินยังไม่ครบก็เป็นหนี้สินอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งคดีนี้ศาลต้องฟังว่าโจทก์ยอมให้นางพันรับเป็นเจ้าของที่ดินแล้ว โจทก์จึงฟ้องขอให้ทำลายนิติกรรมไม่ได้ พิพากษายืนตามศาลล่าง