คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 36/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยประมาทขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงตามทางโค้งซึ่งเป็นทางลาดชัน และไม่ให้สัญญาณแตรเมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถจักรยานผู้ตาย ทั้งผู้ตายยังไม่ให้สัญญาณให้แซงได้ กับจำเลยไม่ขับรถยนต์หลบทางข้างซ้ายซึ่งยังมีทางกว้างเหลืออยู่ถึง 7 เมตร เป็นเหตุให้รถยนต์จำเลยชนรถจักรยานผู้ตาย ดังนี้ ย่อมเป็นฟ้องที่บรรยายเหตุแห่งการประมาทของจำเลยไว้พอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี และเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
การที่จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทด้วยความเร็วสูงชนท้ายรถจักรยานผู้ตายๆ ตกจากรถกระเด็นไปไกล 4 เมตรศีรษะกระทบกับพื้นดินอย่างแรง รุ่งขึ้นมีอาการมึนซึมปวดศีรษะมาก และถึงแก่กรรมหลังจากนั้นเพียง 3 วันเช่นนี้ถือได้ว่าผู้ตายตายเพราะการกระทำโดยประมาทของจำเลยโดยตรง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดานายอำนวยผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้เยาว์จำเลยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ บังอาจขับรถยนต์โดยสารด้วยความประมาทแล่นเข้าเบียดและเฉี่ยวด้านหลังของรถจักรยานที่นายอำนวยกำลังถีบอยู่เป็นเหตุให้นายอำนวยกระเด็นตกจากรถจักรยาน ศีรษะกระแทกกับพื้นดินอย่างแรง หลังจากนั้นนายอำนวยได้ล้มป่วยปวดศีรษะอย่างแรงและถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ตายตกจากรถจักรยานเพราะถูกรถยนต์จำเลยชนข้างหลังแต่หลักฐานพยานโจทก์ยังเป็นที่สงสัยไม่พอฟังว่าผู้ตายถึงแก่กรรมเพราะถูกจำเลยชน พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวน ปรากฏว่าโจทก์บรรยายฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยประมาทขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงตามทางโค้งซึ่งเป็นทางลาดชันและไม่ให้สัญญาณแตรเมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถจักรยานผู้ตาย ทั้งผู้ตายยังไม่ให้สัญญาณให้แซงได้ กับจำเลยไม่ขับรถยนต์หลบทางข้างซ้ายซึ่งยังมีทางกว้างเหลืออยู่ถึง 7 เมตร เป็นเหตุให้รถยนต์จำเลยชนรถจักรยานผู้ตาย เห็นว่าฟ้องของโจทก์ได้บรรยายเหตุแห่งการประมาทของจำเลยไว้พอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีและเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว

การที่ผู้ตายถูกรถยนต์ชนกระเด็นไปศีรษะกระทบพื้นดินจริงดังโจทก์สืบและเพราะรถยนต์จำเลยวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ชนแล้วผู้ตายกระเด็นไปไกลถึง 4 เมตร ฉะนั้น ศีรษะผู้ตายจะต้องกระทบกับพื้นดินอย่างแรงมาก ตามคำนายแก้วบิดาผู้ตาย และร้อยตำรวจเอกประธานพนักงานสอบสวนว่า รุ่งขึ้นผู้ตายก็มีอาการมึนซึมและปวดศีรษะมากและอาการได้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน ถึงกับไม่กินไม่นอนและมีอาการไอและอาเจียรเป็นโลหิตแทรก ต่อมาภายหลังถูกรถยนต์จำเลยชนเพียง3 วันเศษ ผู้ตายก็ถึงแก่ความตาย ฉะนั้นจึงมีเหตุผลเชื่อได้ว่าผู้ตายตายเพราะการกระทำโดยประมาทของจำเลยโดยตรง

พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย

Share