คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3593/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตั๋วภาพยนตร์ที่แท้จริงของกรมสรรพากรมีตราพระอุเทนดีดพิณพิมพ์ไว้ในเนื้อของตั๋วนั้นเอง ไม่ใช่ใช้ตราประทับ ดวงตรารูปนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของรูปลักษณะของตั๋วหาใช่เป็นการทำดวงตราปลอมหรือรอยตราปลอมตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 251 ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1315/2503)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีกหนึ่งคนได้ร่วมกันทำปลอมเอกสารตั๋วมหรสพที่ใช้เข้าชมภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการที่กรมสรรพากรได้จัดทำขึ้น และได้ร่วมกันทำปลอมขึ้นซึ่งดวงตราและรอยตราของกรมสรรพากรอันเป็นดวงตราและรอยตราของทบวงการเมืองและร่วมกันใช้ดวงตราดังกล่าวประทับลงในเอกสารตั๋วมหรสพที่จำเลยกับพวกได้ร่วมกันทำปลอมขึ้น กับได้ร่วมกันมีเพลตแม่พิมพ์ตั๋วมหรสพและแท่นพิมพ์เพื่อใช้ในการปลอมตั๋วมหรสพ ขอให้ลงโทษจำเลย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานปลอมตั๋วภาพยนตร์และรอยตราของทบวงการเมืองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๕๑, ๒๕๒, ๒๕๙, ๒๖๑ เป็นสองกรรม
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะข้อหาฐานปลอมรอยตราทบวงการเมืองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๕๑
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตั๋วภาพยนตร์ของกลางซึ่งมีตราพระอุเทนดีดพิณตราของกรมสรรพากรพิมพ์อยู่ตรงกลางของตั๋วเป็นตั๋วภาพยนตร์ปลอมซึ่งจำเลยเป็นผู้ทำขึ้นเห็นว่ารูปตราพระอุเทนดีดพิณตราของกรมสรรพากรนั้นได้พิมพ์ไว้ในเนื้อของตั๋วนั้นเอง หาใช่เกิดจากการใช้ดวงตราที่ทำขึ้นประทับในภายหลังไม่ จึงเป็นที่เห็นได้ว่าดวงตราพระอุเทนดีดพิณนี้เป็นส่วนหนึ่งของรูปลักษณะของตั๋วภาพยนตร์ที่เป็นเครื่องหมายเพื่อแสดงว่าตั๋วภาพยนตร์นี้เป็นตั๋วที่กรมสรรพากรพิมพ์ขึ้นเพื่อจำหน่ายเท่านั้น การที่จำเลยพิมพ์ตั๋วภาพยนต์ปลอมขึ้นโดยมีตราพระอุเทนดีดพิณเป็นรูปลักษณะส่วนหนึ่งของตั๋ว จึงหาใช่เป็นการทำดวงตราปลอม หรือรอยตราปลอมตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๕๑ ไม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงมีเจตนาทำตั๋วภาพยนตร์ปลอม หาได้มีเจตนาปลอมดวงตราหรือรอยตราของกรมสรรพากรด้วยไม่ เทียบตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๑๕/๒๕๐๓ ระหว่างพนักงานอัยการ กรมอัยการ โจทก์ นายติดเอง แซ่เล้า กับพวก จำเลย
พิพากษายืน

Share