คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3575/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ถอนคำร้องทุกข์ แต่เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรกและโจทก์มิได้ฎีกาทั้งคดีมิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการกระทำแก่บุคคลดังระบุไว้ในมาตรา 285 ย่อมเป็นความผิดอันยอมความกันได้ ตามมาตรา 281 คำร้องขอถอนคำร้องทุกข์จึงมีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไป ศาลฎีกาพิพากษากลับให้จำหน่ายคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองใช้อาวุธปืนขู่เข็ญแล้วกอดปล้ำกระทำอนาจาร และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาวบุญช่วยผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่โดยผู้เสียหายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคสอง ๒๗๘, ๙๑, ๘๓
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามมาตรา ๒๗๖ วรรคแรก ลงโทษจำคุก
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏว่าเมื่อคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นผู้เสียหายยื่นคำร้องลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๒๕ ความว่าผู้เสียหายไม่ประสงค์ที่จะให้โจทก์ดำเนินคดีแก่จำเลยต่อไป ขอถอนคำร้องทุกข์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ ๒ มีและใช้ปืนในการกระทำผิดต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง ซึ่งยอมความไม่ได้จึงไม่อนุญาตให้ถอนคำร้องทุกข์ เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ วรรคแรก และโจทก์มิได้ฎีกาทั้งคดีมิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการกระทำแก่บุคคลดังระบุไว้ในมาตรา ๒๘๕ เช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดอันยอมความกันได้ตามมาตรา ๒๘๑ ดังนั้น คำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายดังกล่าวจึงมีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๓๙ ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะต้องจำหน่ายคดี
พิพากษากลับ ให้จำหน่ายคดี

Share