แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วและขณะนี้อยู่ในชั้นบังคับคดีโจทก์จึงได้ทราบว่าคำฟ้องของโจทก์และคำขอท้ายฟ้องได้มีการระบุเลขที่ น.ส.3 ก.เลขที่ 2708 ผิดไป ซึ่งที่ดินพิพาทที่โจทก์ฟ้องและมีคำขอท้ายฟ้อง ที่ถูกเป็นที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 3708 ตำบลดินแดง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ ที่ดินแปลงดังกล่าวปัจจุบันทางราชการ ได้ออกโฉนดสำหรับที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 1272 ตำบลดินแดง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ แล้ว และเนื่องจากเหตุที่โจทก์ได้ระบุเลขที่ น.ส.3 ก. ในคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้อง ผิดไป จึงทำให้คำพิพากษาของศาลชั้นต้น คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์และคำพิพากษาศาลฎีกามีข้อผิดพลาดไปด้วย โจทก์จึงไม่สามารถบังคับคดีนี้ได้ จากข้อเท็จจริงในคดีนี้ เมื่อโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแล้ว จำเลยได้ยื่น คำให้การต่อสู้คดี แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้โต้แย้ง เรื่องเลขที่ น.ส.3 ก. ซึ่งระบุในฟ้องและคำขอท้ายฟ้อง ผิดไปแต่อย่างใดทั้ง ๆ ที่ น.ส.3 ก. ที่ดินดังกล่าวก็อยู่กับ จำเลย อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 ขอศาลฎีกาได้โปรดพิจารณาและแก้ไข เพิ่มเติมข้อผิดพลาดในคำพิพากษาฎีกาคดีนี้ให้แก่โจทก์ เพื่อที่ โจทก์จะได้นำไปดำเนินการบังคับคดีต่อไป โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ทนายจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 77)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยไปไถ่ถอนการขายฝากที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 2708 หากจำเลยไม่ไปทำการไถ่ถอนให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย และให้โจทก์เป็นผู้ไถ่ถอนที่ดินนาแปลงดังกล่าวแทนจำเลย ได้และให้เพิกถอนการให้ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 2708และพิพากษาว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนชื่อในน.ส.3 ก. เลขที่ 2708 จากชื่อจำเลยเป็นชื่อโจทก์ หากจำเลยไม่ยอมโอนให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาการโอนของจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยไถ่ถอนการขายฝากที่ดินน.ส.3 ก.เลขที่ 2708 หากจำเลยไม่ไถ่ถอน ให้ถือเอา คำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และให้โจทก์ไถ่ถอน แทนจำเลยได้ ให้เพิกถอนการให้ที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 2708ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยจดทะเบียนโอนชื่อ ใน น.ส.3 ก.จากชื่อจำเลยเป็นชื่อโจทก์ หากจำเลยไม่ยอม ไปทำการโอน ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน (คำพิพากษาฎีกาที่ 168/2528)
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นสอบถามข้อเท็จจริง จากทนายโจทก์ว่า น.ส.3 ก. เลขที่ 3708 ที่ขอแก้ไขนั้น เป็นแปลงเดียวกับที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 2708 หรือไม่ ทนายโจทก์แถลงว่าที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวเป็นแปลงเดียวกันโดยจำเลยมิได้คัดค้าน (อันดับ 71 แผ่นที่ 3,76)
อนึ่ง ภายหลังจากศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาแล้ว โจทก์เคยยื่น คำร้องขอแก้ไขเลขที่ น.ส.3 ก. ที่ผิดนี้ต่อศาลชั้นต้นและ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มาแล้วศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของ โจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน (อันดับ 62,69)
คำสั่ง
ข้อความในคำพิพากษาฎีกาที่ว่า “หนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือ น.ส.3 ก. เลขที่ 2708” นั้น ปรากฏว่ามีข้อความผิดพลาด เล็กน้อย จึงมีคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง โดยให้ มีข้อความเป็น “หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือ น.ส.3 ก. เลขที่ 3708” นอกจากที่มีคำสั่งแก้ไขคง ให้เป็นไปตามข้อความเดิมทุกประการ