คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีหมิ่นประมาทซึ่งหาว่าจำเลยใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สามคำฟ้องกล่าวถึงรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดว่าจำเลยกระทำผิดวันใด การสอบสวนไม่ปรากฏชัด ในระหว่างวันที่1 เมษายน ถึง 15 เมษายน 2513 เวลากลางวัน ดังนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ไม่เคลือบคลุม หรือทำให้จำเลยไม่อาจสู้คดีได้ถูกต้อง เพราะโจทก์ได้กล่าวแสดงเหตุผลที่ไม่อาจระบุวันกระทำผิดให้แน่ชัดไว้แล้วและเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นสำหรับข้อกล่าวหาเช่นนี้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2515)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันใดการสอบสวนไม่ปรากฏชัด ในระหว่างวันที่๑ เมษายนถึงวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๑๓ เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจกล่าววาจาหมิ่นประมาทใส่ความนางประเสริฐ มินศิริ ต่อหน้านางสุจริตราอนุยะวงศ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่สามว่า “อีเสริฐเย็ดกับตาและจนเมียเขาเจ็บจะตายอยู่แล้ว” ซึ่งมีความหมายว่านางประเสริฐ มินศิริ ได้ร่วมประเวณีกับนายและ ซึ่งน่าจะทำให้นางประเสริฐ มินศิริ เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง เหตุเกิดที่ตำบลบางมด อำเภอราษฎร์บูรณะจังหวัดธนบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖
จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างฐานที่อยู่
ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องโจทก์เห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์มิได้กล่าวให้ชัดว่าเกิดเหตุวันใด จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม จำเลยย่อมไม่อาจต่อสู้คดี พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้รับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องโจทก์สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘(๕) แล้ว จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
จำเลยฎีกาว่าโจทก์เคลือบคลุม จำเลยไม่เข้าใจข้อหาของโจทก์ไม่อาจต่อสู้คดีได้ถูกต้อง
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว ปัญหาในชั้นนี้มีว่า การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันใด การสอบสวนไม่ปรากฏชัด ระหว่างวันที่ ๑ ถึงวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๑๓ เวลากลางวันเช่นนี้ จะเป็นคำฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ เห็นว่าคดีนี้เป็นเรื่องโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งเป็นข้อหาอันผู้กระทำผิดใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สาม และโจทก์ก็ได้กล่าวในคำฟ้องแสดงเหตุผลที่ไม่อาจระบุวันที่กระทำผิดให้แน่ชัดไว้แล้ว โดยกล่าวว่าเป็นเพราะการสอบสวนไม่ปรากฏชัด ซึ่งเหตุผลเช่นนี้ก็ฟังขึ้นสำหรับข้อกล่าวหาในความผิดหมิ่นประมาท เพราะผู้เสียหายเองอาจจะไม่ทราบชัดว่าจำเลยกระทำความผิดในวันใด และบุคคลที่สามก็อาจจะไม่สนใจที่จะจดจำไว้ด้วย การสอบสวนจึงได้ความแต่เพียงว่า จำเลยกระทำความผิดในช่วงเวลาระหว่างวันที่ ๑ ถึง ๑๕ เดือนเดียวกัน ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าคำฟ้องซึ่งกล่าวถึงรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดเช่นคดีนี้เป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว ไม่เคลือบคลุมหรือทำให้จำเลยไม่อาจต่อสู้คดีได้ถูกต้อง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืนให้ยกฎีกาจำเลย

Share