แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ทุนทรัพย์ที่พิพาท กันในชั้นฎีกา ไม่เกินสองแสนบาทฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้าม ไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ให้กู้ไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ฎีกาของจำเลยจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 80,250 บาท พร้อมกับดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 60,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 48) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ โดยไม่ได้นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 มาวาง ภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยาย ศาลชั้นต้นจึงมี คำสั่งให้รวบรวมถ้อยคำสำนวนส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณา(อันดับ 51,54,55)
คำสั่ง จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ประกอบด้วย มาตรา 247 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย คืนค่าคำร้องส่วนที่เสียเกินมาจำนวน 160 บาท แก่จำเลย